หรืออุปกรณ์ใดๆที่ oled tv
ที่กำลังมาแรงและมาใหม่ปัจจุบันในตอนนี้ คงต้องขอบอกก่อนเลยว่าเป็นนวัตกรรมจอที่ผลิตออกมาเพื่อแซงจอรูปต้นแบบแบบอื่นๆอย่างขาดลอยไม่ว่าจะเป็นระดับความคมชัดของภาพที่มีมากกว่าจอทุกประเภทแล้ว ยังมีเรื่องของความประหยัดพลังงาน ความบาง รวมถึงการออกแบบที่ทันสมัยกว่ามาก ซึ่งก่อนจะบอกกล่าวถึงข้อดีหรือข้อเสียของจอทีวีแต่ละประเภทเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจใดๆนั้น ต้องขออธิบายกันก่อนว่าจอแบบ OLED คืออะไรจอ oled tv
นี้คืออะไร และแตกต่างจากจอทีวีปกติทั่วไปอย่างไร รวมถึงประเภทของจอทั้งหมดมีจุดเด่นตรงไหน ซึ่งในบทความนี้จะมาบอกเล่าถึงความแตกต่างและจุดเด่นสำหรับจอแต่ละปชนิดประเภทเพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลหรือผู้ที่กำลังจัดแจงจะเลือกซื้อจอสำหรับนวัตกรรมจอ oled tv

ออกมาอีกแล้ว โดยหลายคนอาจมีคำกระทู้ถามถามเกิดขึ้นมามากมายว่า oled tv
คืออะไร ?สำหรับจอ OLED ในตอนนี้สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากเลยว่าเป็นนวัตกรรมสุดล้ำของหน้าจอและเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเปล่งแสงได้ดีมากทั้งในที่มืดมืดตึดตื๋อสนิทและที่ๆมีแสงสว่างมากเกินไปก็ยังสามารถแสดงสีสันที่สดมากที่สุดออกมาได้ในขนาดจอที่บางมากและยังสามารถดัดแปลงเข้ากับชิ้นส่วนการแสดงผลอื่นๆให้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างเนียนสนิท โดยเมื่อนำจอแบบ OLED นี้ไปประกอบเข้ากับชิ้นส่วนหรือวัตถุใดๆก็ตามจะส่งผลให้จอแสดงผลของอุปกรณ์เหล่านั้นกินไฟในระดับที่ต่ำมากเป็นพิเศษ ทั้งยังมีพาแนลหน้าจอที่จะบางลงเป็นพิเศษอีกด้วย ซึ่งถ้าหากว่านำจอOLEDนี้ไปประกอบเป็น oled tv
จะเห็นได้ชัดเลยว่ามีคุณสมบัติความบางที่บางมากกว่าโทรศัพท์มือถือ iPhone 7 หลายเท่า และยังมีการรองรับโทนสีที่กว้างมากกว่าหน้าจอแบบ LCD หรือ LED กับการคุมโทนสีดำที่มืดสนิทได้เพราะดังที่กล่าวในข้างต้นว่าจอ OLED มีการเปล่งแสงได้ดีมากไม่ว่าจะเจอสภาวะแสงแบบไหนก็ตามดังนั้นจึงมีผลทำให้ความละเอียดในระดับพิกเซลของจอ OLED เป็นที่ยอมรับของเหล่าผู้ใช้งานและเป็นที่ยอมรับของตลาดเทคโนโลยีด้วยว่านี่คือจอแห่งนวัตกรรมที่มีคุณสมบัติการใช้งานที่ดีที่สุดในปัจจุบัน แถมเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงในทุกอุปกรณ์ ถ้าหากให้อธิบายถึงความหมายหรือหลักการทำงานของจอ OLED อย่างง่ายก็คือเป็นจอภาพที่มีลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์มที่มีสารประกอบในตัวที่มีคุณสมบัติในการเปล่งแสงเองได้เมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้าเข้ามาโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาแสงไฟสีดำหรือสภาวะแสงใดๆรอบตัวเพื่อเพิ่มความชัดหรือกำจัดเงาสะท้อนทั้งนั้น โดย OLED TV มีคุณสมบัติที่แตกต่างกับจอชนิดอื่นอย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือความบางซึ่งในจุดนี้ทำให้ผลิตผลหลายชนิดสามารถนำไปดีไซน์และออกแบบเพิ่มความหลากหลายให้กับอุปกรณ์นั้นๆได้มากขึ้น นอกจากคุณสมบัติความบางเฉียบของจอภาพแบบ OLED ที่มีมากกว่าบรรดาจอทั้งหลายแล้วยังมีคุณสมบัติของความยืดหยุ่นสูงมากจนสามารถโค้งงอได้ เนื่องจากจอแบบ OLED มีโครงสร้างที่แตกต่างจากจอแบบ LCD หรือ LED และจอ CRT เป็นอย่างมาก เพราะโครงสร้างของจอภาพ OLED จะประกอบไปด้วยสารกึ่งตัวนำไฟฟ้าที่เป็นของแข็ง และทำมาจากวัสดุแบบ Polymer ประสมเข้ากับโมเลกุลขนาดเล็ก โดยมีความหนาเพียง 100-500นาโนเมตรเท่านั้นและคาดว่าอาจมีสารอินทรีย์มารวมเป็นองค์ประกอบอยู่ 2 หรือ 3 ชั้น และที่สำคัญอีกอย่างคือสีของแสงที่แสดงออกมาจากจอ OLED จะขึ้นอยู่กับโมเลกุลของสารอินทรีย์ที่เป็นองค์ประกอบในนั้น ซึ่งในจอแบบ Full Color OLED จะมีสารอินทรีย์ทั้งหมด 3 ชนิด อันได้แก่ สารสีแดง เขียว และน้ำเงิน หรือถ้ารวมกันแล้วจะกลายเป็นเฉดที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือโทนสีแบบ RGB นั่นเอง และแน่นอนว่าสารทั้ง 3 ชนิดนี้ (RGB) ได้ถูกเคลือบอยู่บนจอแบบ OLED เพียงแผ่นเดียวเพื่อให้เกิดสีสันต่างๆขึ้นมาเท่านั้น ส่วนความสว่างของแสงที่ปรากฏขึ้นมาบนจอภาพจะขึ้นอยู่กับปริมาณของกระแสอิเล็กตรอนโดยถ้ามีกระแสนี้มากก็จะทำให้จอภาพมีความสว่างมากกว่าปกติ โดยปกติแล้วจอแบบ OLED จะใช้กระแสไฟฟ้าที่ประมาณ 3-10 โวลต์เท่านั้นดังนั้นจะเห็นได้ว่าจากรูปแบบของหน้าจอทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นจอแบบ CRT , LED หรือ LCD รึแม้แต่จอแบบ Plasma TV เองก็ตาม ต่างก็มีคุณสมบัติและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปตามความต้องใจและความต้องการในการใช้งานของผู้ใช้ แต่แต่ถ้าว่าสุดยอดนวัตกรรมและที่สุดแห่งเทคโนโลยีของพวกหน้าจอภาพในอุปกรณ์ต่างๆสำหรับยุคปัจจุบันนี้ต้องยกให้กับ
oled tv oled tv
นวัตกรรมจอทีวีในทุกวันนี้ได้มีการรุดหน้าที่ล้ำหน้าและก้าวไกลไปอย่างรวดเร็วจนหลายคนเริ่มตามกันไม่ทันแล้วไม่ว่าจะเป็นจอ Plasma TV , LED, LCD, CRT หรือแม้แต่ในตอนนี้มีสุดยอดนวัตกรรมจอรุ่นใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า oled tv