ในเดี๋ยวนี้ มีธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายวัสดุก่อสร้างออกมาเยอะแยะมากมาย เพราะเนื่องมาจากเป็นสิ่งของที่สามารถทำกำไรเยอะแยะให้กับเจ้าของกิจการได้ และโดยส่วนมากแล้ว ถ้าทางร้านขายอุปกรณ์ปลูกสร้างพวกร้าน ขายเหล็ก
ถ้าได้เคยเป็นซัพพลายเออร์ของบ.รับก่อสร้างบ้านแล้วละก็ ถือได้ว่าสบายเลยทีเดียว เพราะว่าจะมีออเดอร์เข้ามากมากมายเลยทีเดียว โดยที่เรามิต้องไปคอยคนเข้ามาซื้อเพราะฉะนั้น หากสอบถามว่าธุรกิจการค้ากลุ่มนี้ สามารถทำผลกำไรได้จริงๆ หรือกล่าวตอบได้เลยครับว่าได้แน่นอนแต่ขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วย ว่าจะสามารถรักษาหลักเกณฑ์หรือความไว้วางใจจากลูกค้ารายใหญ่ได้หรือไม่ เพราะถ้าหากว่าได้แล้วละก็ เพื่อนๆ เตรียมตัวสุขสบายได้เลย แต่สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับธุรกิจจำพวกนี้ เพราะแลเห็นถึงผลที่จะได้รับ สิ่งเริ่มแรกที่เราจะต้องมีเลยก็คือ เรื่องของเงินทุน เพราะว่าการธุรกิจประเภทนี้ จะใช้เงินทุนค่อนข้างจะมาก แต่ถ้าสำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีเงินลงทุนไม่มากพอ ผมแนะลู่ทางว่า ให้เรามุ่งขายไปอย่างเดียวก่อน เช่นว่า ขายเหล็ก
นั้น จะขายแทบจะทั้งหมดทุกประเภทเลยก็ว่าได้ เพราะว่าในแต่ละงานก่อสร้าง จำเป็นจะต้องใช้เหล็กหลาย ๆ ชนิดมาประกอบเข้าด้วยกัน โดยต่อไป เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับเหล็กที่ใช้ในงานก่อสร้างนั้น มีอะไรบ้าง เพื่อเพื่อน ๆ ที่สนใจในธุรกิจนี้ ได้ศึกษา และนำไปใช้ในการทำธุรกิจ และแนะนำได้อย่างถูกต้อง โดยวันนี้จะมาแนะนำสำหรับเรื่องของเหล็กรูปพรรณนะครับเพราะเกือบจะใช้ในงานก่อสร้างเยอะเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ จะเป็นเหล็กที่มีรูปเป็นรูปร่างต่าง ๆ ตามการดีไซน์ใช้สำหรับในงานที่เกี่ยวกับโครงโดยส่วนใหญ่จะมีทั้งวิธีรีดร้อน และรีดเย็น โดยจะมีค่อนข้างจะหลายชนิด แบบนี้ประเภทที่ 1. เหล็กข้ออ้อย จะมีรูปร่างนูน ลายเอียง และมีที่ว่างสม่ำเสมอกันทั้งเส้น โดยส่วนมากแล้ว จะสมกับการก่อสร้างตั้งแต่ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ อาทิเช่นสะพาน อาคารต่าง ๆ เป็นต้นประเภทที่ 2. เหล็กเส้นกลม มีลักษณะเป็นเส้นกลม ๆ ผิวเรียบ หน้าตัดกลมไม่เป๋ผิวเกลี้ยงและไม่มีรอยแตก ซึ่งถือว่าร้าน ขายเหล็ก
นั้น ที่มีการดีลกันไว้ก็จะสามารถช่วยลดต้นทุนในการก่อสร้างได้อีกเยอะเลย ต่อไป เรามาดูกันว่า โดยมากแล้ว คนที่เปิดร้านขายของ ขายเหล็ก
ส่วนมากจะมีวางขายทั้งนั้น โดยจะเหมาะกับการก่อสร้างพวกบ้าน หรืออาคารต่าง ๆ ประเภทที่ 3. เหล็กไวด์แฟรงค์ จะมีรูปร่างคล้ายกับรูปตัว I จะมีสัดส่วนทั้งด้านยาวและกว้างไม่เท่ากัน แกนกลางจะทำมุมคือมุมฉาก 90 องศา เหมาะสมกับการเป็นโครงสร้างสำหรับตึกสูง ๆ หรือ โครงหลัง โรงงานพร้อมกับเสาส่งไฟฟ้าประเภทที่ 4. เหล็กเอชบีม จะมีรูปร่างเป็นรูปตัว H โดยที่ด้านยาวและกว้างจะมีสัดส่วนเท่ากัน เหมาะกับงานโครงสร้างพวกร.ง. เสาไฟฟ้า โครงหลังคา ตึกสูงต่าง ๆรวมไปถึงที่พักอาศัย ก็จัดว่าใช้ได้เช่นกันประเภทที่ 5. เหล็กไอบีม จะมีลักษณะเป็นรูปตัว I และด้านกว้างและยาวมีขนาดที่ไม่เท่าเทียม จะเหมาะกับชิ้นงานโครง ขายเหล็ก
ไปอย่างเดียวก่อน ถ้าโตขึ้น แล้วค่อยเติมในส่วนของพวกวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพราะหากสอบถามว่าเหล็กนั้นมีความสำคัญต่อการก่อสร้างไหม บอกได้เลยว่า สำคัญลำดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ ดังนั้น วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักให้ลึกซึ้ง เกี่ยวกับเหล็กกัน ว่า เราจะเลือกแบบไหนมาขายดี เพื่อที่ให้เราสามารถสนองความต้องการของกลุ่มบริษัท และสามารถรู้อธิบายได้ ว่าเหล็กแบบไหนควรใช้กับงานประเภทอะไรถ้าพูดถึงเรื่องของเหล็ก คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ว่าเหล็กคืออะไร แต่ส่วนมากแล้ว จะหลงผิด ว่าเหล็กก็คือเหล็กแบบเดียวกันหมด และสามารถเอามาใช้งานได้หมด ซึ่งถ้าพูดกันจริง ๆ แล้ว ประเด็นของเหล็กนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ เหล็ก พร้อมกับเหล็กกล้า โดยทั้ง 2 อย่างนี้ มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในส่วนของเหล็กกล้านั้น จะมีความทนทานและยืดหยุ่นมากกว่าเหล็ก สามารถนำมาเปลี่ยนแปลงให้เป็นรูปแบบต่าง ๆ ได้ เพราะว่ามีกระบวนการหลอมน้ำเหล็กแล้ว ให้ขึ้นรูปด้วยการรีดต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่แล้ว หากร้าน
ขายเหล็ก ขายเหล็ก
ทุกชนิดนั้น จะมีให้เราได้เลือกหลากหลายแบบ เพราะแต่ละอย่าง สามารถนำมาใช้งานได้แตกต่างจากกัน และการสร้างบ้านหรือตึก โดยมีเหล็กเป็นโครงร่างนั้น มีจุดเด่นค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่น สามารถช่วยลดเวลาในการก่อสร้าง และลดต้นทุนในการสร้าง โดยมีความแข็งแรง ดูปลอดภัย และทำให้โครงบ้านดูสวยงามและมองดูสม่ำเสมอกัน และที่สำคัญ สามารถต่อเติมและออกแบบเพิ่มได้ตามที่เราต้องการเพราะฉะนั้น จีงมิใช่เรื่องแปลกเลย ที่คนจะนิยมใช้เค้าโครงเป็นเหล็ก เพราะความแข็งแรงและดูมั่นคงโดยที่โครงการบ้านจัดสรรหลายๆ ที่ คัดเลือกที่จะใช้โครงสร้างเหล็ก เพราะเหตุผลนี้เอง และแถมตามร้าน ขายเหล็ก