ความได้คิด-จิตใจ ของเด็กฉลาด เด็กแยะๆ คนแห่ง jeunesse ถิ่นมีพฤติกรรมเข้าไปข่ายให้สังคมเรียกว่า

[JulianJackson18]

  ที่พยายามหิวให้ลูกเป็น “ซุปเปอร์คิด” (Super Kid) ไม่ใช่หรือพ่อแม่ซึ่งชอบสละคนเรียกลูกให้หมายถึงอัจฉริยะก็จะมีเป็นผลเสียมากกว่าผลดี มันสิงในกฎกระทงที่ว่า ไม่มีใครอยากแตกแตกต่างจากคนอื่น    ไหนทําแจกเด็กฉลาดลํ้ามักเปลี่ยนไปเป็นคนไร้ค่า  เด็กฉลาดกว่าวัยมักมีลักษณะปลายจิตวิทยาที่แตกต่างจากลูกทั่วไปอย่างน่าสนใจ ข้อมูลต่อไปจะเป็น ข้อมูลที่ได้รับมาจากทั้งงานฉลองการศึกษาค้นคว้า เอกสสาร ตําราทั่วพื้นพิภพ  และออกจากภาคปฏิบัติที่พบเด็กพันธมิตรนี้ลูกจากหายพัฒนา อัจฉริยภาพ  สถาบันวิจัยและพัฒนาการเล่าเรียนเยี่ยม มหาวิทยาลัยศรีนคหลั่งทรวิโรฒ ฉันจึงตระหนักได้ว่า ความคิดและจิตใจของแนวร่วมภูเป็นอย่างไร ความสำนึกพร้อมด้วยจิตใจของเด็กฉลาด  เด็กพวกนี้มีลักษณะทางความคิดและจิตใจที่อาจเอื้อนได้ว่าเป็น “เอกลักษณ์ทางจิตวิทยา” ซึ่งหมายความว่าเป็น กลไกทางวิ่งจิตพิทยาสามารถมีขึ้นได้ตลอดเวลา  ในสังคมเด็กที่มีสติสติปัญญาเถินมากมายคนทั่วไปคิดว่าพันธมิตรนี้เป็นกลุ่ม สิทธิพิเศษชน ที่ได้เปรียบผู้อื่น เล่าเรียนรู้ได้ง่ายดาย คิดได้มามาก รู้มากกว่าคนอื่น ไม่จําเป็นต้องควบคุมอะไรหมายถึงพิเศษ  ข้อคดีได้คิด จิตใจเวลาในแหล่งเป็นผลพวงจากประสิทธิภาพแหล่งสูงความสามารถแห่งรอบคอบอ่อนลึกซาบซึ้งกว่าคนอื่น เป็น กลไกเวลาในแหล่งใจไป  “จับ”  สิ่งต่างๆ ไม่เฉพาะทางวิ่งความได้คิด      แต่  “กำ”  ด้วยความรู้สึกหรอภายในที่แตกต่างพลัดพราก เด็กทั่วไป jeunsse      น้อยคนแห่งเข้าไปใจว่าเด็กกลุ่มนี้ไม่ได้มีเค้าโครงประดิษฐ์ลู่ความคิดและความสามารถที่พิสดารลึกซึ้งจาก ลูกทั่วไปเพียงนั้น แต่พวกภูเขายังมีเค้าโครงสร้างทางอารมณ์ที่ลึกซาบซึ้งพิลึกพิลั่นไม่ภินท์ต่างออกจากความคาดคะเนของพวกเขาเลย ดังนั้นความรู้สึกที่ไวเกินกว่าเด็กธรรมดาธรรมดา เจ็บป่วยปวดรุนแรง มีปฏิกิริยาขานสนองที่ละเอียดละออ ความอ่อนไหว กระแสความรู้สึกกร่อนต่อขัดขวางนั้นรุนแรงกระทั่งเยาวชนธรรมดา และเป็นถิ่นน่าเสียดายว่ากระแสความแท้เช่นนี้เป็นสิ่งถิ่นผู้ใหญ่ทั้งมวล มองข้าม แต่กลุ่มพากันคิดว่าผู้เยาว์พวกตรงนี้อะไรๆ ก็จำต้องสามารถทนได้ แก้ไขได้รับด้วยตนเอง  Ann  Marie ได้ให้กระแสความหมายเชิงจิตวิทยา “คนที่มีความสามารถพิเศษหมายถึงคนถิ่นมีเรื่องไวในการรองรับทราบ อย่างมหาศาลและมีข้อคดีอ่อนไหวมากกว่าเด็กอื่น  มีศักยภาพโด่งอื้อซ่าในการแห่งจะโยงหรือไม่ปรับเปลี่ยนสิ่งของที่ได้รู้ ไปสู่ความสามารถทางเชาวน์หรือไปสู่สภาวะทางอารมณ์ได้มาง่ายกว่าคนปกติธรรมดา  ในขณะที่ Columbus กล่าวนินทา “คนที่มีความสามารถพิเศษนั้นเป็นความไม่ยำกลมกลืนกันสิ่งของ พัฒนาการที่พัฒนาการทางภูริและความสามารถต่างๆ ที่มีอยู่ทำนองก่ำข้นไปมีผลกระทบก่อให้ปรากฏการเรียนรู้ ที่หมายความว่าประสบการณ์ หรืองานตระหนักรู้ที่แตกต่างลูกจากคนรวมหมดไป  jeunesse

  ความไม่ยำกลมกลืนนี้เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มที่มี ศักยภาพอุจขึ้นมีเอกลักษณ์สิ่งของเด็กแวดวงนี้slimทีแทนที่จะคือผลดี กลับกลายส่งผลให้พวกภูเขาอ่อนแอ และ ต้องการดูแลจากผู้ปกครอง ครู การให้คําแนะนํา พร้อมทั้งช่วยปรับปรุง เพื่อมอบพวกเขาเชี่ยวชาญวิวัฒน์ได้รับเต็มตาม ศักยภาพได้ ซึ่งความไม่ผสมกลมกลืนคือขาดการผสมกลมกลืนหรือการคืออันหนึ่ง อันเดียว ของอัตรางาน พัฒนาการข้าวของปัญญาอารมณ์ และร่ายกาย”  ความมิยำกลมกลืนกันนี่เองที่ส่งผลให้เกิดความเครียดภายในได้  เช่น  เด็กอายุ 3-4 ขวบ เก่ง อ่านออกและมีความมาถึงใจพอๆ กับเด็ก 7-8 ขวบ อย่างไรก็ตามไม่รอบรู้เกณฑ์กำหนดเขียนหนังสือได้ยินยอมจินตนาการใช่ไหมความควรการ เครื่องใช้ตนเองได้ ทําให้ตึงเครียด หงุดหงิด คับข้องใจ ที่เชี่ยวชาญพบได้มาเทียมบ่าเทียมไหล่ๆ ในกลุ่มเด็กที่มีข้อคดีสามารถในระดับสูง ไม่เบา (Highly  Gifted) ความมิผสมกลมกลืนภายในก็ประดิษฐ์ให้ปรากฏข้อคดียากลําบากในการปรับอวัยวะไปด้วยjeunesse jeunesse
  ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายมอบสังคมกู่เรียกว่าร้ายเด็กอัจฉริยะ แนวร่วมภูก็มักถูกคาดวาดฝันออกจากสังคมจะ มีใครรู้บ้างตัวไหมว่าผู้เยาว์ตัวเล็กอันเดียวต้องหามความคาดหวังเท่าภูเขา อย่างไรก็ตามเด็กก็คือเด็ก จิตใจสิ่งของเด็กอ่อนไหว และ อารมณ์สิ่งของเขาจะขึ้นอยู่กับความรู้สึกมากกระทั่งความผิดถูก อะไรที่ไปกระทบความทราบสึกของเขามากๆ  เขาควรหา แนวออกและวิธีหาทางออกนี้ก็สุดจะคาดเดาได้นินทาจะเลวทรามไม่ใช่หรือดี    เตี่ยพระชนนีที่  jeunesse

  พร้อมด้วยเด็กก็ มักจะมีความรู้สึกสึกหรอว่าตนเอง “แตกต่าง” ไม่มีแห่งเหมาะกับเขา เพราะทุกคนมีความจำต้องการหรือมีความรู้สึกหรออยาก เป็นส่วนหนึ่งของวงการ เป็นที่ยอมให้รับเรื่องรู้สึกว่าเครื่องเคราต่างๆ มิเหมาะสมก jeunesse
 เรื่องคิด-จิตใจ ของเด็กฉลาด  เพราะ     ผศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ เด็กแยะๆ คนถิ่น  jeunesse