<span style=
line-height: 1.42857;
>ลัดวงจร เพื่อไม่ให้เกิดอัคคีภัย ซึ่งสร้างข้อเสียหายต่อทรัพย์สิน ภายหลังได้</span>
FRC หรือสาย FR
สายไฟบางกอกแต่จะมี ฉนวนที่บางกว่า น้ำหนักที่เบากว่า และไม่แนะนำให้สามารถเดินฝังแผ่นดินได้โดยตรง เหมือนสาย NYY
แต่ส่วนสายไฟ CV นั้นให้เกณฑ์กำหนดแรงดันถึง 1000V ด้วยกัน และมีมูลค่าถูกกว่า สายไฟ NYYถ้าเทียบเคียงที่ฉนวน 2 ชั้นเหมือนกัน
สายไฟชนิดนี้มีคุณสมบัติ พิเศษคือ สามารถทนไฟในอุณภูมิสูง หรือมีจุดหลอมเหลวสูงนั่นเอง และปกป้องรักษาการลามของไฟ ไปยังจุดอื่นๆ
สำหรับการเดิน สายไฟบางกอก ในปัจจุบัน ทั้งบ้านโรงงาน หรือที่ทำงานต่างๆเองก็ตาม ก็ต้องมีเกณฑ์สำหรับ
เกิดความร้อนเมื่อเราโดนหรืออยู่ใกล้ๆ ก็ควรรีบให้ช่างไฟเข้ามาตรวจ เพื่อหาจุดที่กระแสไฟฟ้าเกินหรือเกิดการ
การเลือกสายไฟแบบสายต่างๆเช่นกัน โดยปัจจุบัน อ้างอิงตามกฏเกณฑ์การเดินสายไฟใหม่คือ มอก.2553 แล้ว
รวมถึง การปรับพิกัดกระแสของสายไฟเช่นกัน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและให้เกิดความมั่นคงต่อผู้ใช้มากที่สุด
ในส่วนของการเดินสายไฟ มีทั้งการลากสายไฟแบบลอย และวางใต้ดิน รวมถึงลากไม่มีฉนวน
โดยถ้าเราไม่ได้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างติดตั้งงานระบบไฟฟ้าเองแล้ว อย่างน้อยก็ควรรู้ว่า ในที่พักอาศัยเรามีระบบอะไรบ้าง
โดยที่แปรเปลี่ยนหลักๆจะเป็นการเดินของสายไฟ และ รหัส ที่ใช้เรียกสายไฟ
หรือพบเจอกับตัวเอง จะได้รู้ว่าผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือการดีไซน์ ใช้งานของผู้รับเหมา นั้นเหมาะ หรือถูกต้องแล้วหรือยัง
การคัดเลือกใช้งานสายไฟเพื่อให้ถูกการใช้งานและคุ้มค่า
หุ้ม<span style=
line-height: 1.42857;
>สายไฟบางกอก ชนิดTHW หรือ IEC01 ซึ่ง เป็นสายไฟที่ใช้งานมากที่สุดที่ใช้ในการเดินสายไฟภายในบ้าน</span><span style=
line-height: 1.42857;
>ไม่ว่าจะระบบแสงไฟ </span><span style=
line-height: 1.42857;
>ปลั๊กไฟ</span><span style=
line-height: 1.42857;
> หรือสายไฟที่ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอัคคีชนิดอื่นๆ ซึ่งส่วนมากจะใช้ สายไฟ THW หรือ สาย IEC01</span>ความใหญ่ ของสายไฟตั้งแต่ 2.5 ,4,6,10,16,35 ซึ่งถ้าเราใช้สายไฟความใหญ่ใหญ่ จะทำให้
<span style=
line-height: 1.42857;
>ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับงบประมาณของเราเองด้วย ใช่ว่าจะต้องใช้ของ over spec. อย่างเดียวถึงจะดี </span><span style=
line-height: 1.42857;
>ก็ให้ดูที่ความสมควรทั้งการใช้งาน และงบประมาณของเรา </span>
<span style=
line-height: 1.42857;
>รวมไปถึงในสนามบินก็จะมีสายประเภทนี้อยู่มากเพื่อส่งสัญญาณ ฉุกเฉินไปยังภาคอื่นในห้องดูแล</span>
<span style=
line-height: 1.42857;
>เวลาเราใช้เครื่องใช้อุปกรณ์มากๆ สายไฟจะมีความร้อนสะสมน้อยกว่าที่เราจะใช้สายไฟเครื่องใช้อุปกรณ์เล็ก</span><span style=
line-height: 1.42857;
>ซึ่งก็ต้องดูว่าผู้รับเหมาไฟฟ้า ใช้สายไฟบางกอก เครื่องใช้อุปกรณ์อะไร เพื่อเป็นคุณประโยชน์ ต่อการใช้งานในอนาคตที่อาจมีเพิ่มขึ้นอีกด้วย</span><span style=
line-height: 1.42857;
>ส่วนสายไฟบางกอก NYY เป็นสายไฟชุบฉนวน 2 ชั้น </span>ซึ่งหลักๆที่จะใช้งานกันคือเป็นเคเบิลเมนเดิน จากมิเตอร์ มาเพื่อเข้าแผงวงจรหลักในที่พักอาศัย<span style=
line-height: 1.42857;
>ซึ่งถ้าใช้กับ มาตรวัด30/100A ก็อาจจะต้องเลือกสายไฟขนาดใหญ่หน่อย คือตั้งแต่ขนาด 16 ขึ้นไป ถึง 35</span>ซึ่งจะครอบคลุม การใช้มากกว่า แต่หากใช้พื้นที่หน้าตัด16 ก็ไม่ผิดอะไร เพราะกระแสไฟใช้งานก็เพียงพอ
สายชนิดนี้เป็นกฏเกณฑ์นอก IEC60532 มาตรฐานสากล ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในงานเดินสายไฟที่มีขีดขั้น
สายไฟบางกอก ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกแ
ปกป้องรักษาอะไรได้บ้าง รวมไปถึงสายไฟบางกอก ที่ใช้ในบ้านเกิดความร้อนสั่งสมหรือไม่หรือที่เรียกว่า กระแสเกิน
ซึ่งอัคคีจะดับเอง เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง นอกจากนี้สายไฟจำพวกนี้ยังนิยมใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เป็นสายส่งสัญญาณที่สำคัญ
เพื่อให้เราพินิจว่า ระบบไฟฟ้าในบ้านมีความผิดปกติธรรมดา เช่น ถ้าปลั๊กไฟในบ้าน หรือสายไฟในบ้าน
ทำให้เราได้เครื่องไม้เครื่องมือที่ดีในราคา ที่เหมาะสม และการใช้งาน และความปลอดภัยสูงอีกด้วยที่ยาวนานอีกด้วย
Fire Resistance Cable เป็นสายไฟที่เอาไว้วางระบบ fire alarm เพื่อใช้ในการส่งสัญญาณเตือนภัยได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้
แรงดันกระแสไฟฟ้าสูงกว่าชนิด THW หรือ NYY จะทำให้ ซึ่งมีพิกัดแรงดัน ประมาณ 750V
นี่ก็เป็นความรู้เบื้องต้นคร่าวๆของสายไฟบางกอก จำพวกต่างๆเพื่อให้ผู้บริโภคงานเข้าใจขั้นแรกในการนำไปใช้งาน
สายไฟบางกอก CV 0.6/1KV