ให้ลูกท่านแล้ว โดยเริ่มต้นที่นำเอาผ้าขนหนูที่ไม่ใช่แล้วมารองซ้อนไว้ที่รอยนั้นแล้วก็นำทิชชู่แบบหนามารองไว้อีก1ชั้นด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ที่นอนเปียกแล้วเกิดตัวปัญหาอับชื้นตามมา เทคนิคคือต้องเริ่มลงมือทำทันทีหลังจากที่ท่านพบว่าลูกของคุณฉี่รดที่นอน เพื่อไม่ให้มันแทรกซึมลึกไปถึงชั้นใยที่นอนและเมื่อใช้วิธีที่กล่าวมาข้างต้นเราจะสามารถซับฉี่ออกไปได้บ้างเล็กน้อย ต่อจากนั้นก็นำผ้าเช็ดตัวหรือผ้าขนหนูอีกผืนมาซับน้ำหมาดๆแล้ววางลงไปที่คราบฉี่ ค่อยๆนำน้ำเปล่าสะอาดลงมาเทตามลงไปทีละเล็กทีละน้อย ห้าม!!เทเยอะเด็ดขาด และทางทีดีควรจะใช้เป็นน้ำอุ่นค่อนไปทางร้อน เพื่อที่จะเป็นการช่วยทำลายเชื้อไปอีกทาง นำผ้าเช็ดตัวกดซับไปทีละนิดๆเพื่อซับรอยเปื้อนเหลืองออกไป เสร็จแล้วก็ใช้ฟ็อกกี้ฉีดพ่นน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่าเล็กน้อยพรมลงไปบนรอยคราบให้ทั่ว ทิ้งเอาไว้สักครูแล้วใช้แป้งฝุ่นทาตัวของลูกที่มีกลิ่นหอมและมีคุณสมบัติช่วยกำจัดกลิ่น หรือใช้เบกกิ้งโซดาก็ได้ เพราะมีสรรพคุณในการช่วยขจัดกลิ่นและลดความอับชื้น อีกทั้งยังช่วยทำลายเชื้อได้ด้วย วิธีการนี้จะเป็นการช่วยซับน้ำด้วยอีกทางนึง ภายหลังทำขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยก็ให้ทิ้งเอาไว้ให้แห้ง อาจใช้ไดร์เป่าช่วยได้เพราะว่าถ้าทิ้งให้เปียกปอนนานๆอาจจะทำให้อับชื้นได้ การ ทำความสะอาดที่นอน
อยู่ ทดลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้กันนะคะ การันตีว่าคุณจะกำจัดปัญหานี้ได้ดีกว่าเดิมทีเดียว ทำความสะอาดที่นอน
เครื่องมือที่ต้องก็หาไม่ยากหยิบในบ้านคุณนั่นแหละ สิ่งที่จำเป็นต้องมีได้แก่ ผ้าเช็ดตัวหนาๆ น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา และแป้งฝุ่นสำหรับเด็ก เมื่อจัดเตรียมของครบก็ได้เวลาเริ่ม ทำความสะอาดที่นอน
ก็แล้ว เปลี่ยนผ้าปูก็แล้ว แต่กลิ่นก็ยังฝังลึกไม่หมดไปสักที ครั้นจะจ้างเอาก็กลัวเสียเงินเยอะ เพราะลูกยังเด็กก็มั่นใจได้เลยว่าเรื่องการฉี่รดที่นอนเป็นเรื่องราวที่ต้องเจออีกบ่อยๆแน่นอน วันนี้เรานำเคล็ดลับดีๆมาฝากสำหรับแม่ที่กำลังปวดหัวกับการ ทำความสะอาดที่นอน

ถูกละเลย ไม่ได้รับการป้องกันเอาใจใส่ ทำให้คราบยิ่งฝังลึก กลิ่นก็เหมือนกัน สิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และรอยเปื้อนปัสสาวะของบุตรก็สะสมอยู่ตามเนื้อผ้าจนทำให้เตียงนอนและผ้าปูต่างๆที่เคยใหม่สีสันแจ่มใสเริ่มค่อยๆที่จะหมองและเหลือง มีกลิ่นอับและรอยด่างเด่นชัดมากขึ้น และอาจจะกลายเป็นแหล่งเชื้อโรคในไม่ช้า คุณแม่ลูกอ่อนบางคน พยามที่จะทำจัดการกับกลิ่นปัสสาวะของบุตรด้วยการ
ทำความสะอาดที่นอน ทำความสะอาดที่นอน
ค่อนข้างยุ่งยาก เพราะถ้าทำผิดวิธีอาจจะทำให้ที่นอนของท่านยิ่งเป็นแหล่งรวบรวมของเชื้อโรค ถ้าหากว่าเป็นไปได้นำออกไปผึ่งแดดฆ่าเชื้อได้จะยิ่งได้ผลดีกว่าการปล่อยให้แห้งในที่ร่ม ทำความสะอาดที่นอน
ยิ่งไปกว่านี้เรายังมีเคล็ดลับดีๆในการดูแลที่นอนให้ถูกวิธีและช่วยถนอมยืดอายุการใช้งานของที่นอนให้ยาวนานขึ้นมาฝากด้วย เพราะเตียงนอนราคาก็ไม่ใช่ถูกๆเลยใช่ไหมคะ เราก็อยากใช้ให้ได้นานที่สุด ดังนั้นการหลีกเลี่ยงให้มันเป็นแหล่งหมักหมมสิ่งสกปรกมักจะดีที่สุด วันนี้เราจึงมาแชร์เคล็ดให้คุณแม่และทุกคนที่อยากรักษาเตียงนอนนำไปใช้ค่ะ ทำความสะอาดที่นอน
อย่าลืมแกะพลาสติกหุ้มที่นอนออก บางท่านชอบที่จะปล่อยพลาสติกที่หุ้มที่นอนทิ้งไว้โดยไม่ถอดออก แล้วก็ปูผ้าปูที่นอนทับเลย ทราบแหละค่ะว่าอยากให้มันดูใหม่อยู่เสมอ กลัวเลอะรอยอะไรต่างๆนานา แต่ว่าการใช้งานของที่นอนจะลดประสิทธิภาพลงไป 50% เลยทีเดียวนะคะ เพราะความยืดหยุ่นของที่นอนก็จะลดลงทำให้นอนไม่สบายมากกว่าเตียงที่แกะพลาสติกออกยิ่งกว่านั้นยังทำให้ที่นอนระบายอากาศได้ยากเป็นมูลเหตุของความอับชื้นนั่นเอง และในที่สุดเมื่อเราใช้ที่นอนของเราหลังจากนั้นอีกไม่นานพลาสติกก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ กรอบแห้งและจะค่อยๆฉีกออกมา นั่นหมายความว่าอย่างไรก็ตามในวันนึงเราก็จำเป็นจะต้องแกะพลาสติกออกอยู่ดี ถึงแม้ว่ามันจะช่วยป้องกันฝุ่นและรอยได้บ้างแต่ถ้าเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพที่ลดน้อยลงก็ไม่คุ้มค่าอย่างแน่นอน แนะนำให้แปลงมาใช้เป็นผ้าปูรองพื้นอีกชั้นก่อนที่จะคลุมผ้าปูที่นอน เป็นการกันเปื้อนที่ทำให้เตียงยังได้ประสิทธิภาพเหมือนเดิมมิหนำซ้ำอาจนุ่ ทำความสะอาดที่นอน
ห้องนอนเป็นบริเวณพักเหนื่อยที่ดีสุดของที่อยู่ แน่นอนว่าห้องหับที่เราใช้เพื่อการพักเหนื่อยนั้นจำเป็นจะต้องมีบรรยากาศที่ดี บริสุทธิ์ถูกสุขลักษณะ และที่สำคัญต้องปลอดกลิ่นที่ไม่ประสงค์ บรรยากาศที่ดีจะช่วยทำให้เราพักผ่อน มารดาหลายๆคน อาจมีอุปสรรคที่ว่า ดูแลห้องนอนหลับอย่างดี พยายามทำให้หมดจดไม่ให้ฝุ่นจับ แต่เปลี่ยนแปลงเป็นว่าลูกน้อย ดั๊นมาฉี่ใส่ฟูกเป็นเหตุให้ทั้งห้องนอนเหม็นตลบอบอวนไปได้กลิ่นฉี่ หรือว่าแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ข้างในที่พักอาศัย กลิ่นอายมันก็จะตลบอบอวนหมุนกันอยู่ข้างในบ้าน ทำให้แขกเหรื่อไปใครมาก็รู้เลยว่าที่พักอาศัยนี้มีลูกแน่นอน เมื่อการ ทำความสะอาดที่นอน