นั้นจะมีส่วนประกอบดังนี้ครับ แผงท่อความเย็น,คอมเพรสเซอร์,หน้ากากเครื่องที่มีแผ่นเกร็ดแผ่กระจายความเย็น,แผงท่อระบายความร้อน,เครื่องมือสำหรับเปิด-ปิด เครื่อง,พัดลมส่งความเย็น,พัดลมระบายความร้อน,อุปกรณ์ป้อนสารทำความเย็นฉ่ำ,แผ่นกรองอากาศ โดยทุกอย่างจะทำงานประสม และสร้างอากาศที่เย็นขึ้นให้กับเพื่อนๆ ได้ หากสิ่งหนึ่งสิ่งใดเสียหรือพัง มันก็จะทำให้แอร์ของเราไม่เย็นครับ โดยต่อไปเราจะมาพูดถึงชนิดของแอร์ที่เราเคยเห็นกัน ว่ามีทั้งสิ้นกี่แบบกี่ประเภทนะครับ เครื่องปรับอากาศ
ประเภทที่ 1. แบบตั้งหรือแขวน โดยแอร์ประเภทนี้ จะเหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการอยากได้แอร์ตั้งพื้นหรือแขวนห้อยลงมาจากเพดาน จะเหมาะสำหรับบริเวณ ที่ค่อนข้างจะกว้างอยู่พอควร แต่ห้องเล็กก็สามารถติดตั้งได้ ตัวอย่างเช่นห้องนอน ร้านอาหาร สำนักงานต่าง ๆ ฯลฯแต่ถ้าสำหรับตัวผมแล้ว ผมมองว่า เหมาะกับร้านอาหารใหญ่ ๆ หรือสนง.มากกว่าครับ เครื่องปรับอากาศ
ชนิดที่ 2. แบบติดฝาผนัง แอร์ประเภทนี้ จะเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่มีห้องขนาดเล็ก พื้นที่น้อยเช่นพวกห้องนอน ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น ซะมากกว่าครับ เพราะว่าด้วยขนาดที่กะทัดรัด จึงไม่ทำให้ดูเก เครื่องปรับอากาศ
มักจะเปิดกันได้แทบจะทั้งวันทั้งคืน ซึ่งเป็นสิ่งของภายในบ้านอย่างหนึ่ง ที่กินไฟมากที่สุด โดยปัจจุบัน ก็มีการพัฒนาให้กินไฟลดลง และคุณสมบัติต่าง ๆ ก็พัฒนาขึ้นจากแต่ก่อนมากยิ่งขึ้น โดยที่ส่วนประกอบของแอร์นั้น จะมีหลัก ๆ ที่เราเห็นๆ กันก็จะมี 2 ส่วนด้วย คือ 1.ตัวเครื่องแอร์ที่ให้ความเย็นฉ่ำอยู่ข้างในห้อง และ 2.จะมีตัวคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ภายนอกนะครับ โดยที่คอมเพรสเซอร์นั้นจะปฏิบัติหน้าที่ ที่สำคัญมาก และเราจะเห็นได้ว่า ถ้าหากคอมไม่มีลมร้อนออกมา หรือคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน จะทำให้ตัวเครื่องด้านใน ไม่เกิดความเย็นด้วย เช่นกัน โดยสิ่งที่เราควรรู้ก็คือ ขนาดของแอร์ที่เราจะซื้อนะครับ เพราะแอร์นั้น มีหลายขนาดให้คัดเลือกซึ่งขึ้นอยู่กับความกว้างของห้องที่จะจัดตั้งด้วย หน่วยของมันคือ BTU มันคือหน่วยของ เครื่องปรับอากาศ
หมายความว่าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะทำให้ที่อยู่อาศัยหรือห้องของคุณมีอุณหภูมิลดน้อยลงหรือเย็นลงนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องนั่งพักผ่อน ห้องรับแขก ครัว ก็สามารถติดได้ เพื่อช่วยทำให้อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อน และยิ่งในปัจจุบันนี้ ได้มีการก้าวหน้าเพิ่มขึ้นอีกมาก ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ให้เหมาะสมกับยุคนี้ ที่ผู้คนหันมาคุ้มครองตัวเองกันมากขึ้น คือ จะมีการกลั่นอากาศ ให้อากาศปลอดฝุ่นละออง หรือ เชื้อโรค เชื้อรา ต่าง ๆ หรือว่าจะมีการพัฒนา ให้มีการประหยัดกระแสไฟเพิ่มมากขึ้น เพราะแอร์หรือ เครื่องปรับอากาศ
ที่ตั้งไว้ เช่น 8,000 BTU เหมาะสมสำหรับห้องขนาด 14 ตารางเมตร หรือ12,000 BTU เหมาะสำหรับห้องหับขนาด 20 ตารางเมตร ฯลฯซึ่งมันคือหน่วยวัดการดึงความร้อนออกจากห้องต่อชั่วโมง (อันนี้เข้าใจง่ายดี ไม่ต้องลึกซึ้งมาก) โดยที่เราต้องคิดถึงด้วยว่า ห้องของเรานั้นมีความกว้างมากแค่ไหน หากห้องเราไม่ได้ใหญ่มากนัก ก็ไม่จำเป็นจะต้องเอา BTU เยอะ ๆ นะครับ เพราะว่าเปลืองเงินโดยใช้เหตุ เราควรคำนึงถึงความเหมาะสมต่าง ๆ ด้วยครับ โดยส่วนประกอบอุปกรณ์เครื่องแอร์คอนดิชันหรือ เครื่องปรับอากาศ
เพราะคือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้อากาศของที่พักอาศัยเรามีภูมิอากาศที่หนาวเย็นขึ้น และก็คงไม่แปลกประหลาดที่หลาย ๆ บุคคลจะเลือกสรรที่จะจัดตั้งแอร์ไว้ในบ้านเรือนเนื่องจากช่วยปรับอุณหภูมิให้เย็นสบายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวของข้าพเจ้าพูดได้เลยว่า ขาดแคลนแอร์ไม่ไหว เนื่องจากอากาศมันร้อนมากวัน ๆ หนึ่ง ล้างตัวไป ออกมาสักพักเดียว ก็ตัวชุ่มเหงื่ออีกแล้ว เรียกได้ว่า กลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คนเลยที เพราะฉะนั้น วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักไอเจ้า เครื่องปรับอากาศ
ให้เข้ากันมากขึ้นกันครับ เพื่อที่เพื่อนฝูงๆ จะได้เห็นถึงความสลักสำคัญของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ครับและจะได้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างพอเหมาะกับเพื่อน ๆ ครับ เครื่องปรับอากาศ
เรื่องราวของกาทำความเย็นนั้น ยังไงก็หลบหนีไม่พ้นแอร์ เพราะว่าเป็นสิ่งอำนวยความสบายที่มีกันมาอย่างยาวนาน ในสมัยก่อนนั้นอาจจะมีเฉพาะบ้านของคนที่มีฐานะ แต่ในปัจจุบันนั้น ทุกที่พักอาศัยสามารถมีได้ เพราะสนนราคานั้นไม่ได้แพงมากนัก ซึ่งในสมัยนี้ สามารถชำระหรือผ่อนจ่ายได้อีกด้วย จึงทำให้ เป็นที่นิยมมากในยุคนี้ เรามาทำความรู้จักมักคุ้นกันครับ เครื่องปรับอากาศ
ในสมัยนี้ สภาพอากาศบ้านเรา บ้านเมืองของเราค่อนข้างจะร้อนมากและยิ่งในเดือนเมษายนนี้ ยิ่งร้อนมากๆ กว่าทุกปี โดยที่อุณหภูมิพุ่งสูงแตะที่ 40 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว แค่สภาพอากาศในเช้าตรู่ก็ถือได้ว่าร้อนมากมายแล้ว และสิ่งที่จะมาช่วยคลายอากาศที่ร้อนจัดได้นั้นก็คือ
เครื่องปรับอากาศ เครื่องปรับอากาศ