เรื่องของ วิทยุสื่อสาร
ที่เราต้องนำมาเป็นข้อมูลในการพินิจพิจารณา ชนิดแรกคือ ความถี่ โดยจะต้องวิเคราะห์ดูว่า เครื่องที่เราต้องการสามารถรับความถี่ในการใช้งานของเราได้หรือไม่ หาก วิทยุสื่อสาร
[youtube]youtube.com/watch?v=hSHYL9tCLLg[/youtube]
นับว่ายังได้รับความชื่นชอบต่อเนื่องสำหรับในยุคปัจจุบัน โดยโดยมากแล้ว จะมีคลื่นวิทยุหลายความถี่ ภายใต้กฎหมายกำหนดแต่กระนั้นด้วยการที่มีคลื่นความถี่สำหรับประชาชนหรือที่เราเรียกว่า CB ความถี่ 245 เมกะเฮิร์ตซ์ เป็นเหตุให้เกิดการใช้งานในวงกว้างในหมู่ นักวิทยุสมัครเล่น ขันอาสาต่างๆรวมเบ็ดเสร็จไปถึง สถานประกอบการ ร.ง. บริษัท ต่างๆด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ไม่มีการศึกษาในเรื่องของการใช้งานมาก่อน คุณอาจเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย ก็เป็นได้ ซึ่ง เครื่องวิทยุในคลื่นความถี่สำหรับประชาชนนี้ แบ่งออกเป็นอีกสามประเภท ชนิดแรกคือ เครื่องติดตั้งในรถยนต์ จะต้องมีใบอนุญาตในการใช้งาน ชนิดที่สอง เครื่องวิทยุมือถือ กำลังส่ง 5 วัตต์ จะต้องมีใบอนุญาตเช่นกัน และกลุ่มที่สาม เครื่องวิทยุมือถือ กำลังส่ง 0.5 วัตต์ ไม่ต้องขอใบอนุญาตครับ ซึ่งกลุ่ม กำลังส่ง 0.5 วัตต์ ได้รับความชื่นชอบตามบ. อาคารสถานที่ โรงงานต่างๆเพราะสามารถคุยกันได้ในรัศมีประมาณ 1-3 กิโลเมตร ซึ่งพอเพียงต่อการใช้งานอยู่แล้ว เพื่อในสถานที่จำพวกตึก คลังสินค้าจะมีประสิทธิภาพในการใช้งานลดลงมาเล็กน้อยครับจากการที่ วิทยุสื่อสาร
ก็เป็นเรื่องที่มีนัยครับ เพราะในปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อเป็นอย่างมาก โดยในความเที่ยงตรงแล้ว จะต้องได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ก่อน ถึงจะสามารถนำเข้าและจัดจำหน่ายในไทยได้ครับ เครื่องหมายการค้าที่เราคุ้นเคยก็อาทิเช่น Motorola, Icom,Kenwoodแน่นอนครับว่า ยี่ห้อเก่าแก่ที่มีมาตรฐาน ย่อมถูกนับถือมากกว่า ยี่ห้อใหม่ๆ ส่วนใหญ่แล้ว พวกยี่ห้อเหล่านี้จะผลิตจากประเทศญี่ปุ่น แต่กระนั้นสำหรับปัจจุบันมีการผลิตจากประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน มากยิ่งขึ้น ซึ่งวิทยุที่ผลิตจากประเทศจีน หากว่าเป็นตรามาตรฐาน คุณภาพการผลิตก็เทียบเท่ากับการผลิตจากประเทศอื่นๆครับ เว้นเสียแต่ว่า เป็นของไม่มีตรา และไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายอย่างถูกต้อง พวกนี้เราจะไม่สามารถรับประกันในเรื่องของคุณภาพได้ อีกเรื่องที่ควรพินิจพิจารณาคือ รุ่น ของแต่ละยี่ห้อครับ โดยชื่อของรุ่น จะมีมาก โดยความแตกต่างอาจจะจะเป็นเพียงแค่รูปลักษณ์ หน้าตา ส่วนอื่นๆเหมือนกัน แต่กระนั้นส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นการแยกแยะตามคุณสมบัติมากกว่า โดยจะมีการข้อมูลออกมาว่า ยี่ห้อไหน รุ่นไหนสามารถใช้ได้บ้าง นอกจากนั้นนั้นแล้ว การเลือก
วิทยุสื่อสาร วิทยุสื่อสาร
ยังต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆอีก เป็นต้นว่า เงื่อนไขการบริการหลังการขาย การการันตี ราคาอะไหล่ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ เรื่องของราคาพวกนี้ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากว่า ตัววิทยุเอง ไม่ได้ออกรุ่นใหม่มาบ่อยๆ ด้วยเหตุนั้น รุ่นที่เราเลือกใช้ อาจจะออกมาหลายปีแล้ว หรือไม่ก็อยู่ไปอีกหลายปี เราจึงต้องคำนึงถึงอุปกรณ์ อะไหล่ต่างๆเวลาเปลี่ยนหรือว่าซ่อมด้วย รวมไปถึงในเรื่องของ ระยะเวลาในการเคลมด้วยว่า มีความเร็วเพียงใด ทั้งนี้ทั้งนั้น เชื่อแน่ว่า อีกสิ่งหนึ่งที่คนมักให้ความสลักสำคัญมากก็คือ เรื่องของรูปแบบภายนอก ความถนัดมือในการจับ ความสวยงาม หรือการใช้งาน เพราะ คนเรามีความชื่นชอบที่แตกต่างกันไป ถามสามารถเลือกสิ่งที่ถูกใจมากที่สุด ด้วยว่าตนเองได้ คงจะเป็นการดีกว่านี่อาจจะเป็นวิธีพิจารณาในเบื้องต้น ซึ่งการพินิจพิจารณาโดยละเอียด เราจำเป็นต้องจะต้องดู รายละเอียดหรือสเป็กเครื่องนั่นเองสเป็กเครื่องของ วิทยุสื่อสาร
จำแนกเป็นสามประเภท เพราะฉะนั้นแล้ว ก่อนที่คุณจะคัดเลือกเครื่องวิทยุมาใช้งาน ก็ต้องถามวัตถุประสงค์ของตัวเราก่อนครับว่า จะนำมาใช้งานอย่างไร โดยมากแล้ว นักวิทยุสมัครเล่น มักจะเลือกสรรแบบเครื่องมือถือเนื่องมาจากว่าสามารถพกพาได้สะดวก ยิ่งกว่านั้นมีราคาที่ถูกกว่ากันมาก แต่สำหรับผู้ที่ต้องการกำลังส่งแรงๆ จะต้องใช้แบบรถยนต์ครับ เป็นส่วนใหญ่แล้วจะนิยมในหมู่สหพันธ์ อาสาต่างๆ แต่สำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องแบบรถยนต์แต่นำมาใช้ในบ้าน ก็ไม่ได้ผิดกติกาอะไรครับ ได้ความถี่ที่แรงมากกว่าอยู่แล้ว ส่วนใครที่อยากจะใช้ในการทำงานของตนเอง ก็มักจะเลือกแบบ กำลังส่งไม่เกิน 0.5 วัตต์ เนื่องด้วยเป็นการติดต่อกันในระยะที่ไม่ไกลมากครับ มีราคาที่ถูกกว่า พร้อมทั้งไม่ต้องยุ่งยากในการขอใบอนุญาตอีกด้วย เพราะด้วยในเรื่องของราคา ก็ขึ้นอยู่กับชนิด ตามที่เรากล่าวมา เช่นใดก็ตาม ในแต่ละประเภท ก็จะมีหลากหลายรุ่น ราคาแตกต่างกันไป วิธีการซื้อที่คุ้มมากที่สุดก็คือ ซื้อในช่วงลดนั่นเอง โดยมากแล้ว บรรดาร้านขายอุปกรณ์วิทยุนั้น จะมีการจัดงานลดราคาประจำปี หรือไม่ก็ตามเทศกาลต่างๆอยู่บ่อยๆครับเรื่องยี่ห้อของ วิทยุสื่อสาร