ก็เป็นเรื่องที่มีความสลักสำคัญครับ เพราะในสมัยปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อเป็นอย่างมากมาย โดยในความถูกต้องแล้ว จะต้องได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ก่อน ถึงจะสามารถนำเข้าและจัดจำหน่ายในไทยได้ครับ เครื่องหมายการค้าที่เราคุ้นเคยก็อาทิเช่น Motorola, Icom,Kenwoodแน่นอนครับว่า ตราดั้งเดิมที่มีมาตรฐาน ย่อมถูกยอมรับมากกว่า ยี่ห้อใหม่ๆ ส่วนใหญ่แล้ว พวกยี่ห้อเหล่านี้จะผลิตจากประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจุบันมีการผลิตจากประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะจีน มากยิ่งขึ้น ซึ่งวิทยุที่ผลิตจากประเทศจีน หากว่าเป็นตรามาตรฐาน คุณภาพการผลิตก็เทียบเท่ากับการผลิตจากประเทศอื่นๆครับ เว้นเสียแต่ว่า เป็นของไม่มียี่ห้อ และไม่ได้รับอนุญาตให้ขายอย่างถูกต้อง พวกนี้เราจะไม่สามารถรับประกันในเรื่องของคุณภาพได้ อีกเรื่องที่ควรพิจารณาคือ รุ่น ของแต่ละเครื่องหมายการค้าครับ โดยชื่อของรุ่น จะมีมาก โดยความแตกต่างอาจจะจะเป็นเพียงแค่รูปลักษณ์ หน้าตา ส่วนอื่นๆเหมือนกัน แต่กระนั้นส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นการแบ่งตามคุณสมบัติมากกว่า โดยจะมีการประกาศออกมาว่า ตราไหน รุ่นไหนสามารถใช้ได้บ้าง ยิ่งไปกว่านั้นนั้นแล้ว การเลือกสรร วิทยุสื่อสาร
ที่เราต้องนำมาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ อย่างแรกคือ ความถี่ โดยจะต้องพิจารณาดูว่า เครื่องที่เราต้องการสามารถรับความถี
วิทยุสื่อสาร วิทยุสื่อสาร
เรื่องราวของ วิทยุสื่อสาร
ยังต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆอีก ดังเช่น เงื่อนไขการบริการหลังการขาย การรับประกัน ราคาอะไหล่ รวมถึงอุปกรณ์เสริมมากมาย เรื่องของราคาพวกนี้ นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องด้วยว่า ตัววิทยุเอง ไม่ได้ออกรุ่นใหม่มาบ่อยๆ ดังนั้น รุ่นที่เราเลือกใช้ อาจจะออกมาหลายปีแล้ว หรืออยู่ไปอีกหลายปี เราจึงต้องพิจารณาถึงอุปกรณ์ อะไหล่ต่างๆเวลาเปลี่ยนหรือซ่อมด้วย รวมไปถึงในเรื่องของ ระยะเวลาในการเคลมด้วยว่า มีความเร็วเพียงใด อย่างไรก็ตาม เชื่อแน่ว่า อีกสิ่งหนึ่งที่คนมักให้ความสลักสำคัญมากก็คือ เรื่องของรูปทรงภายนอก ความถนัดมือในการจับ ความงดงาม หรือการใช้งาน เนื่องด้วย คนเรามีความเป็นที่นิยมที่แตกต่างกันไป ถามสามารถเลือกสรรสิ่งที่ถูกใจมากที่สุด สำหรับตนเองได้ คงจะเป็นการดีกว่านี่อาจจะเป็นวิธีพิจารณาในเบื้องต้น ซึ่งการพินิจพิจารณาโดยละเอียด เราจำเป็นจะต้องจะต้องดู รายละเอียดปลีกย่อยหรือสเป็กเครื่องนั่นเองสเป็กเครื่องของ วิทยุสื่อสาร
นับว่ายังได้รับความชื่นชอบสืบเนื่องเพราะด้วยในช่วงปัจจุบัน โดยส่วนมากแล้ว จะมีคลื่นวิทยุมากหลายความถี่ ภายใต้กฎหมายบันทึกอย่างไรก็ตามด้วยการที่มีคลื่นความถี่เพื่อประชาชนหรือว่าที่เราเรียกว่า CB ความถี่ 245 เมกะเฮิร์ตซ์ ทำให้ปรากฏการใช้งานในวงกว้างภายในหมู่ นักวิทยุสมัครเล่น ขันอาสาต่างๆรวมเบ็ดเสร็จไปถึง สถานประกอบการ โรงงาน บริษัท ต่างๆด้วย เช่นใดก็ตาม ถ้าหากว่า ไม่มีการศึกษาในเรื่องของการใช้งานมาก่อน คุณคงจะเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย ก็เป็นได้ ซึ่ง เครื่องวิทยุในคลื่นความถี่เพื่อประชาชนนี้ แบ่งออกเป็นอีกสามประเภท ประเภทแรกคือ เครื่องติดตั้งในรถยนต์ จะต้องมีใบอนุญาตในการใช้งาน กลุ่มที่สอง เครื่องวิทยุมือถือ กำลังส่ง 5 วัตต์ จะต้องมีใบอนุญาตเหมือนกัน และชนิดที่สาม เครื่องวิทยุมือถือ กำลังส่ง 0.5 วัตต์ ไม่ต้องขอใบอนุญาตครับ ซึ่งประเภท กำลังส่ง 0.5 วัตต์ ได้รับความชื่นชอบตามบ. อาคารสถานที่ โรงงานต่างๆเพราะว่าสามารถคุยกันได้ในรัศมีประมาณ 1-3 กิโลเมตร ซึ่งพอเพียงต่อการใช้งานอยู่แล้ว เพื่อในสถานที่จำพวกตึก คลังสินค้าจะมีศักยภาพในการใช้งานลดลงมาเล็กน้อยครับจากการที่ วิทยุสื่อสาร
จำแนกเป็นสามประเภท ดังนั้นแล้ว ก่อนที่คุณจะคัดเลือกเครื่องวิทยุมาใช้งาน ก็ต้องถามเป้าหมายของตัวเราก่อนครับว่า จะนำมาใช้งานอะไร โดยมากแล้ว นักวิทยุสมัครเล่น มักจะเลือกสรรแบบเครื่องมือถือเนื่องจากว่าสามารถพกพาได้สะดวกสบาย อีกทั้งมีราคาที่ถูกกว่ากันมาก แต่สำหรับผู้ที่ต้องการกำลังส่งแรงๆ จะต้องใช้แบบรถยนต์ครับ เป็นส่วนใหญ่แล้วจะนิยมในหมู่องค์การ อาสาต่างๆ แต่สำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องแบบรถยนต์แต่นำมาใช้ในบ้าน ก็ไม่ได้ผิดกติกาอะไรครับ ได้ความถี่ที่แรงมากกว่าอยู่แล้ว ส่วนใครที่อยากจะใช้ในการทำงานของตนเอง ก็มักจะเลือกแบบ กำลังส่งไม่เกิน 0.5 วัตต์ เพราะเป็นการติดต่อกันในระยะที่ไม่ไกลมากครับ มีราคาที่ถูกกว่า พร้อมทั้งไม่ต้องยุ่งยากในการขอใบอนุญาตอีกด้วย เพราะด้วยในเรื่องของราคา ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะ ตามที่เรากล่าวมา อย่างไรก็ตาม ในแต่ละประเภท ก็จะมีหลากหลายรุ่น ราคาผิดแผกแตกต่างกันไป วิธีการซื้อที่คุ้มมากที่สุดก็คือ ซื้อในช่วงลดราคานั่นเอง โดยมากแล้ว บรรดาร้านขายอุปกรณ์วิทยุนั้น จะมีการจัดงานลดราคาประจำปี หรือไม่ก็ตามเทศกาลต่างๆอยู่บ่อยๆครับเรื่องยี่ห้อของ วิทยุสื่อสาร
Dilber MC Theme by HarzeM