ชมรมเจ้ามือหวย
 
*
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เมษายน 29, 2024, 06:58:01 am


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น


ผลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 16 กรกฎาคม 2565 รางวัลที่ 1 620405 รางวัล3ตัวหน้า 159 834 รางวัล3 ตัวท้าย 279 061 รางวัลเลขท้าย 2ตัว 53




เว็บโปรแกรมเจ้ามือหวย



ทำงานแบบมีหลักการ ไม่กล้าจนเกินตัว ไม่กลัวจนเกินเหตุ
ปณิธานของชมรมเจ้ามือหวย
ทางชมรมเจ้ามือหวย หวังแค่เพียงเพื่อนๆ อยู่กันแบบเป็นพี่เป็นน้อง จริงใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ร่วมมือกันในการแบ่งปันข้อมูล มีอะไรดีๆ ก็นำเสนอแก่เพื่อนสมาชิก เพื่อเป็นแนวทางในการทำงาน
หรือระวังป้องกันให้ชาวชมรมได้อยู่ในวงการตลอดไปนานเท่านาน
ขอบคุณจากใจจริง
nongnai


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องน่าขันกับน้องชายของเพื่อนที่ได้คิดไปเองว่าจะเป็นโรคเอดส์  (อ่าน 2053 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
badbad391Topic starter
สามัญ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เข้ามาล่าสุด:มีนาคม 29, 2015, 09:26:43 pm
กระทู้: 1

ระบบปฏิบัติการ::
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
บราวเซอร์::
Chrome 21.0.1180.83 Chrome 21.0.1180.83


เว็บไซต์
« เมื่อ: มีนาคม 20, 2015, 11:38:28 pm »

เรื่องราวน่าขำกับน้องชายของเพื่อนที่นึกไปเองว่าจะเป็นโรคเอดส์




   เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเวลาที่ผมยังเป็นเด็กวัยรุ่น อายุ17-18ปี ซึ่งหวนคิดทีไรก็อดขำไม่ได้เลยทีเดียว ถึงเวลานี้ผมจะมีอายุเข้าเลข3แล้วก็ตามที (รู้สึกแก่ตัวขึ้นมาทันที) ก่อนที่จะเข้าเรื่องอยากจะทำความเข้าใจกับผู้อ่านที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ก่อนว่า กิจกรรมที่วัยจ๊าบสมัยนี้ทำกันกับกิจกรรมที่วัยรุ่นสมัยผมทำกันนั้นอาจจะคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกันที่เทคโนโลยีและวิธีการ สมัยเมื่อ 10 กว่าปีก่อนโทรศัพท์มือถือเพิ่งจะเข้ามาแต่ในกลุ่มเด็กวัยรุ่นนั้น ยังไม่แพร่หลายมากนักเพราะราคาที่เด็กอย่างเราๆไม่สามารถซื้อได้ ก็ยังคงเป็นยุคสมัยของโทรศัพท์บ้านเป็นหลัก กิจกรรมของผมในสมัยนั้นที่ทำหลักในกลุ่มของผมก็จะเน้นไปทาง ดูหนัง เดินห้าง เล่นไอซ์สเก็ต (ฟิวเจอร์บางแค ตอนนี้ปิดไปแล้วมั้ง) และที่ขาดไม่ได้ก็คือ อิสตรี ฮ่าๆ
   ตอนเราอยู่สมัยนั้นก็รู้จักกับโรคเอดส์จากโรงเรียนวิชาสุขศึกษาและก็ดูน่าหวาดกลัวสำหรับพวกเราที่วันๆจ้องแต่จะจีบสาวๆ มาเพื่ออวดกันและมีกิจกรรมที่คู่ควงกันทำ พฤติกรรมแบบนั้นซึ่งไม่ค่อยดีเท่าใดเมื่อเราอายุมากขึ้นแล้วมองกลับไปว่าทำไปเพื่ออะไรวะเนี่ย โชคดีนะที่รอดมาได้จนถึงปัจจุบัน ในสมัยนั้นผู้หญิงที่เรียน ม.ต้น ม.ปลาย หรือ ปวช. ในบางกลุ่มมักจะชอบผู้ชายที่มีรถมอเตอร์ไซด์ที่สวยๆและแรงๆ ซึ่งปัจจุบันมีการตั้งคำเฉพาะให้กับกลุ่มนี้ว่า เด็กแว๊นและสก๊อยนั่นเอง การที่ผู้ชายมีมอเตอร์ไซด์แต่งสวย ยิ่งทำให้มีโอกาสในการที่จะจีบผู้หญิงที่หมายปองต้องใจได้ง่ายขึ้น มอเตอร์ไซด์เลยกลายเป็นเครื่องมือหาสาวๆของพวกผม (พิมไปยิ่งรู้สึกละอายจริงๆ) แทบจะแข่งขันกันเลยว่าใครจะมีแฟนมากกว่ากัน คบกันชนิดที่แบบว่าตำรวจเห็นมึงโดนจับแน่ เอ้างง ไม่ต้องงง ก็เล่นคบกันแบบซ้อนสาม ซ้อน4 ในช่วงเวลาเดียวกัน และทำเป็นเรื่องสนุกสนาน โดยไม่ได้คำนึงถึงสิ่งได้เรียนรู้มาจากโรงเรียนที่เกี่ยวกับโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเอดส์เลย ทุกๆอย่างผ่านไปแบบนี้ในแต่ละวัน เดือน ปี
   มาเข้าเรื่องซะทีด้วยกิจกรรมแบบนี้มันเลยกลายเป็นกลุ่มตัวอย่างหรือที่เรียกกันว่า “ไอดอล” ในกลุ่มรุ่นน้องในเรื่อง (เฮียๆ) พอดีช่วงนั้นมีรุ่นน้องคนนึงเป็นน้องชายของเพื่อนในก๊วนกำลังห้าวมากแต่มันเป็นเด็กที่ค่อยข้างบื้อ อยากจะมีมอเตอร์ไซด์ อยากแต่งรถเท่ๆเพื่อนออกไปหาหญิงบ้าง จึงไปขอแม่ให้ซื้อให้และมันก็ได้มาเพื่อทำตามความฝันของมันตามรอยพี่และเพื่อนๆพี่ของมัน แต่สิ่งที่มันฝันไม่ได้เป็นอย่างที่นึกหวังเสมอไปผ่านไปวันแล้ว วันเล่า ผมก็ได้แต่ลุ้นมันว่าขับรถมาบ้านจะได้เห็นมันพาสาวๆซ้อนท้ายมาซักวัน แต่แล้วก็เบาะเปล่า มันก็ยังไม่หมดความมานะทำทุกอย่างที่ทำได้ ขับรถไปจอดหน้าโรงเรียนตอนเลิกเรียน โรงเรียนแล้วโรงเรียนก็ได้แต่ความว่างเปล่าติดเบาะกลับมา จนวันนึงมันทนไม่ไหวได้เดินเข้ามาถามในกลุ่มที่ผมและพี่มันนั่งอยู่ว่า พวกพี่ทำยังไงกันถึงได้สาวๆซ้อนท้ายกลับมาง่ายจังบอกหน่อยได้{หรือไม่ ผมเองเป็นคนติดตลกโปกฮาก็เลยแซวไปว่า “กูจ้างมานั่งโชว์แลกกับไปส่งบ้านฟรี 555” แต่กลายเป็นว่าไปจุดระเบิดให้มันซะงั้น โดนมันสวนกลับมาว่า “ผมไม่ขำนะพี่เรื่องนี้จริงจังระดับประเทศ ผมซีเรียสมาก” ผมนี่ถึงกับอึ้งเงิบไปเลยเกือบโดนรุ่นน้องโบกซะแล้ว จังหวะนั้นเพื่อนผมคนนึงได้ถามมันกลับไปว่า “มึงไปจอดหน้าโรงเรียนแล้วได้ทำอะไรบ้างป่ะ” มันตอบมาทำให้ผมกับเพื่อนและพี่มันนี่หัวเราะท้องแข็งกันเลยว่า “ผมก็ไปจดและก็นั่งยิ้มอย่างเป็นมิตร” ผมนี่แทบหงายเลย แต่อย่างที่บอกครับ มันเป็นคนซื่อๆออกบื้อนิดๆ และก็ได้นัดกันว่าจะพามันไปดูว่าเขาไปทำกันยังไง แต่วันนั้นผมไม่ได้ไปด้วยแต่เพื่อนก็กลับมาอธิบายให้ฟังว่า มันเอาสมุดมาจดกันเลยทีเดียวเป็นขั้นเป็นตอน แบบว่าแม่งจริงจังระดับประเทศจริงๆ
   แต่จนแล้วจนเล่ามันก็ยังหาไม่ได้อยู่ กระทั่งมันได้งานพาร์ทไทม์ที่ร้านเชสเตอร์กิลด์ นั่นแหละเป็นจุดเริ่มต้นของผู้หญิงคนแรกที่มันได้มีจังหวะ (โอกาสอะไรอ่านต่อครับ) มันเจอผู้หญิงคนนี้แล้วมันก็มาเล่าให้ฟังทุกวัน โน่น นี่ นั่น ในทางที่ไม่ค่อยดี แต่ก็ชอบใจ ผมล่ะงงกับมัน ส่วนผู้หญิงผมก็รู้จักเพราะเคยเป็นคู่ควงเพื่อนมาก่อนแต่ไม่ได้บอกมัน จนวันนึงผู้หญิงคนนี้ได้เปิดโอกาสและจังหวะลงตัวสุดๆที่ดันมีวันหยุดเป็นวันเดียวกัน พวกคุณเคยไหมที่นัดผู้หญิงมาบ้านครั้งแรกเพื่อหวังที่จะ “สะหวีวี่วี” มันใจเต้นต้องเตรียมการเป็นเรื่องระดับประเทศตามสไตล์ จัดโน่น นี่ นั่น มาปรึกษาว่าจะเริ่มยังไงดี จะทำอะไรตอนไหน ทางพวกผมก็ได้บอกทุกอย่างที่ควรจะทำกับมันไปและช่วยจัดฉากจัดห้องพร้อมกับการแอบดูเบ็ดเส็ด เมื่อถึงวันที่เฝ้าคอยมาถึง มันไม่โผล่หน้ามาให้ผมเห็นตาลีตาเหลือกออกไปรับผู้หญิงและพาเข้ามาบ้านตามแผน พวกผมก็ประจำการในที่วางแผนไว้เพื่อ แอบดู 555 ในช่วงเวลาอันตื่นเต้นที่จะได้เห็นการถูกพรากพรหมจรรย์ของน้องชายเพื่อนผม (เอ่อ ผมเขียนถูกไหมดูเหมือนจะสลับขั้วนะ แต่ถูกแล้วอ่านไม่ผิดหรอกผู้ชายกำลังจะถูกผู้หญิงเปิดซิง) คนดูก็ลุ้น คนทำแม่งก็ช้า ลีลาไม่ทำอะไรซักทีทันใดนั้นมันเดินออกนอกห้องปิดประตู พวกผมตกใจรีบวิ่งออกจากฐานซุ่มยิง เอ้ยฐานซุ่มดู ทันทีและมันก็มาโผล่ที่ห้องพี่ชายมันและพูดว่า “เฮ้ย โครตตื่นเต้นว่ะ ทำยังไงดีเริ่มจากไหนก่อนดี จับนมหรือจูบก่อน หรือทำเลย ทำอะไรไม่ถูกเลยว่ะ” พวกผมนี่ทั้งฮาแตกและก็เซงกับมันมาก พี่ชายมันก็เลยบอกว่าปล่อยไปตามอารมณ์มึงเลยแล้วน้องชายมันก็เดินกลับไป ทันใดนั้นพวกผมก็เข้าไปประจำการที่ฐานซุ่มดูอีกครั้ง คุณเชื่อไหมลุ้นมันในการมีอะไรกับผู้หญิงครั้งแรกที่ ท้องไส้ผมถึงกับอลหม่านยิ่งกว่าลุ้นหวยอีก แต่สุดท้ายสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ ........ เสียงประตูดังปัง มันสองคนพากันเดินออกนอกห้องและซักพักได้ยินเสียง สตาร์ทรถผมรีบวิ่งไปที่หน้าต่างหน้าบ้านและเห็นมันซ้อนท้ายกันออกไป อ้าว สลัดฐานซุ่มดูกูก็หมดคุณค่าเลย
   รอคำตอบจนหัวค่ำว่าเกิดอะไรขึ้นมันกลับมาได้คำตอบว่า “ให้กูทำตามอารมณ์ ตอนนั้นกูหิวข้าวเลยถามผู้หญิงคนนั้นว่าหิวไหมไปหาอะไรกินกัน ก็เลยออกไปหาไรกินแล้วก็ไปส่ง” จบปิ๊ง นิ่งสงัดเงียบสนิท พวกคุณอาจจะสงสัยว่าคนแบบนี้มีจริงๆหรือ มีจริงครับ แต่เรื่องมันที่สำหรับผมนึกถึงทีไรแล้วผมอดขำไม่ได้คือหลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้มีโอกาสไปดูหนังฟรี เพื่อนทำงานโรงหนังมีตั๋วหนังฟรีมาแจกและชวนไปดูกัน 5คน อย่างว่าแหละครับความขวนขวายของมัน ตามติดพี่และพวกผมไม่ห่างเพื่อนทำเรื่องยิ่งใหญ่ระดับประเทศของมัน ในระหว่างที่รอหนังถึงรอบฉายเพื่อนผมเจ้าของตั๋วฟรีมันหน้าตาดีหล่อ คม เข้ม ได้แสดงความสามารถของหน้าตา มีผู้หญิงคนนึงส่งยิ้มให้และเพื่อนผมก็ถือว่าเข้าทางเลยเดินเข้าไปหาส่วนพวกผมก็นั่งดูอยู่ไกลๆโดยน้องชายเพื่อนผมตั้งหน้าตั้งตาดูเพื่อนของผมจีบผู้หญิงคนนั้น ประมาณ 5นาที เพื่อนผมได้พาผู้หญิงคนนั้นมาแนะนำกับพวกเรา ด้วยหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ตัวเล็กขาวๆ ถือว่าโอเคมากเลย แต่น้องชายเพื่อนถึงกับแนะนำตัวเองออกนอกหน้า โน่น นี่ นั่น แบบชัดเจนว่า กูอยากด้ายยยยย! เพื่อนผมเจ้าของตั๋วหนังฟรีได้ชวนผู้หญิงที่จีบเมื่อตะกี้ดูหนังด้วย แต่ซื้อตั๋วให้ตามสไตล์ป๋า เมื่อดูหนังเสร็จได้เชิญชวนไปต่อและมีการส่งซิกกับผมว่าจะใช้ห้องของผมเลยพากันไปกินต่อที่ห้องของผม เมื่อมาถึงพวกผมก็รู้กันว่าถึงเวลาที่จะต้องปล่อยให้คู่เขาอยู่กันสองคนเพื่ออะไรที่คุณก็รู้ พอเสร็จกิจแล้วเพื่อนผมก็ลงมาเรียก แต่หารู้ไหมว่าผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่ต้องการเรื่องเซ็กส์มากเมื่อทุกคนขึ้นไปถึงห้องผมผู้หญิงมีอาการหงุดหงิดแบบไม่รู้สาเหตุ แต่ระหว่างนั้นผมผู้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เพราะแฟนโทรตาม มารู้ในวันรุ่งขึ้นว่าเกิดกิจกรรมเวียนเทียนเกิดขึ้นที่ห้องของผม และน้องชายของเพื่อนผมถูกผู้หญิงคนนั้นพรากพรหมจรรย์ไปเรียบร้อยแล้ว
   ผมเองถึงกับตื่นเต้นมากเลยรีบไปหามันที่บ้านแต่เจอพี่ชายมันดักไว้ก่อนผมกับพี่ชายมันได้คุยกันว่า รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะผู้หญิงเมื่อคืนแบบว่าแรงมากและไม่มีใครได้ป้องกันซักคน จึงคุยกันว่าจะไปตรวจแต่จะแกล้งน้องชายตัวเองก่อนเพราะมันเบิ้ลด้วยเมื่อคืน ผมนี่หัวเราะเลย ได้มีการพูดกันว่าให้เพื่อนผมที่ไปจีบแกล้งว่ามีอาการผิดปกติหลังจากผ่านไป 1อาทิตย์ ว่าเป็นเหมือนหนองในและไปบอกน้องชายมัน พอไปบอกเท่านั้นแหละท่าทางของมันเริ่มไม่ดี และถามกลับมาว่า “หนองในคืออะไร” เลยกลายเป็นว่ายิ่งทำให้กุเรื่องง่ายขึ้นอีก พี่ชายมันก็เลยยิงไปว่าหนองในเป็นอาการเริ่มต้นของโรคเอดส์ พอได้ยินคำว่าโรคเอดส์เท่านั้นล่ะครับ หน้าพี่แกซีดแบบเห็นได้ชัด แล้วมันถามมาว่าพี่ไปตรวจรึยังตรวจแล้วรู้เลยไหม พี่มันก็บอกว่ายังแต่เพื่อนผมอีกคนตรวจแล้วรอผลตรวจอีก 1อาทิตย์ถ้ามันติด กูค่อยไปตรวจกับมึง น้องมันถึงกับเอ๋อ ไม่เป็นอันกินอันนอนเลย ผมตั้งใจจะแกล้งมัน3วัน ในช่วงระหว่าง 3 วัน มันเจอผม มันก็จะถามว่า “ผมจะเป็นไหม” ผมถามกลับ “เป็นอะไรของมึงวะ” โรคเอดส์น่ะพี่ ผมจะเป็นโรคเอดส์รึเปล่า ผมนี่เกือบหัวร่อออกมาแทบระงับไม่อยู่ จนผ่านไปสามวัน พี่มันและเพื่อนผมก็มาหามันที่บ้านและบอกมันว่ามึงโดนหลอก เท่านั้นล่ะครับ มันโหวกเหวกเป็นเรื่องระดับประเทศ เคืองพวกผมไปเป็นสัปดาห์ สีหน้า หน้าตาตอนที่มันกังวลนั้นเหมือนมันเป็นจริงๆไปแล้ว เรื่องนี้นึกถึงทีไรอดขำไม่ได้ซักที
   ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับบ้าบอคอแตกไปหน่อยแต่อยากเล่าครับ
บันทึกการเข้า

[URL=http://www.hibstation.com/articles/42209117/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1CD4-%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2009, Simple Machines

Valid XHTML 1.0! Valid CSS! Dilber MC Theme by HarzeM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.235 วินาที กับ 22 คำสั่ง