เริ่มในสมัยจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม เป็นช่วงที่ประเพณีนิยมต่างชาติได้แพร่พลายเข้ามา คนจำนวนมากก็นิยมใส่ชุดสีดำตามแบบชาติตะวันตก หรือว่าใส่ชุดสีขาวตามแบบวัฒนธรรมของจีน ที่เชื่อว่าสีขาวเป็นสีที่แสดงถึงความโคกโศกเศร้าและพลัดพรากจากกัน ยิ่งไปกว่านี้ยังมีสีน้ำตาลที่ชาวเปอร์เซียมักสวมใส่ เพราะว่าแสดงถึงใบไม้ที่ร่วงหล่น ส่วนชาวซีเรียจะสวมชุดสีน้ำเงินที่หมายความว่าสรวงสวรรค์ พวงหรีด
วางในงานศพ เพื่อเป็นการแสดงออกถึง คำว่า ขอแสดงความเสียใจ ต่อเจ้าของงาน หรือญาติมิตรพี่น้องของผู้ตาย รวมทั้งเป็นการแสดงด้วยว่า ตนเองครอบครัว หรือหน่วยงานได้มาคารวะผู้ตายแล้ว โดยมักจารึกชื่อของ ตนเอง ครอบครัว หรือองค์กร ติดไปกับด้วย ในทัศนะของนักวิชาการสิ่งแวดล้อมได้ถูก รังสรรค์ แต่งเติมอย่างสวยงาม ได้ส่งมอบต่อ ญาติมิตรพื่น้องผู้เสียชีวิต ก็จะถูกวางในสถานที่จัดงานศพของผู้จบชีวิตตามความเหมาะสม อย่างเป็นระเบียบปฏิบัติและส่วยงาม และเมื่อมีการนำศพผู้ล่วงลับไปทำพิธีฌาปนกิจ หรือเตรียมเผาศพ ก็มักนำตกแต่ง หรือเข้าขบวนพิธีการด้วยเวลามีคนรู้จักหรือสนิทคุ้นเคยเสียชีวิต ขนมธรรมเนียมปฎิบัติของคนไทย การกำหนดตั้งศพไว้ 3-7 วัน โดยจะมีการนิมนต์พระมาสวดทุกคืน ผู้ไปร่วมงานนิยมนำ
พวงหรีด พวงหรีด
หนทางใหม่ๆมากมายมากมากให้เลือก ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ซึ่งอาจทำให้หลายๆคน อาจจะเลือก กันไม่ถูก แต่จริงๆแล้ว เราจะช่วยอะไรก็ดีทั้งนั้นแหละค่ะ ที่สำคัญการ มอบ พวงหรีด
เป็นจารีตของชาติตะวันตก แม้แต่คำว่า หรีด ก็เป็นคำทับศัพท์ ภาษาอังกฤษ หมายความว่า Wreath (รีธ) แปลว่า n. พวงมาลัย,มาลัย,สิ่งที่ร้อยเป็นวง (พวงมาลัย,ดอกไม้) พันรอบ,ม้วน,โอบ,โอบล้อม,ล้อมรอบ,ปิด,หมุน,ทำให้งอ,หมุนเป็นวง แต่เนื่องจากคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ ได้รับเอาจารีตประเพณีดังกล่าวมา แต่ต่างเป้าประสงค์ คือว่า การส่ง พวงหรีด
ดอกไม้สดหรือ อื่นๆ ไปเคารพศพ เพื่อแสดงความเคารพรัก และ คาราวะผู้ตาย นั่นเองพอเพียงได้อ่านข้างบนก็คงจะเข้าใจที่มาที่ไป กันพอสมควร สรุปง่ายๆ คือ พวงหรีด
เป็นดอกไม้ที่จัดมาอย่างสวยหรูเพื่อแสดงความเคารพนับถือต่อผู้สิ้นชีวิต เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งใน ปัจจุบัณมี พวงหรีด
เพื่อเป็นการลาคนไป และต้องไม่ให้เดือดร้อนเงินในกระเป๋าตนเองด้วยน่ะค่ะ พวงหรีด
เริ่มตั้งแต่สมัยโบราณชาวตะวันตกเชื่อว่าผู้ที่พึ่งถึงแก่ชีวิตจะยังไม่รู้ตัว จึงจะกลับมาเพื่อหาร่างของตนเอง ดังนั้นคนในพี่น้องญาติ และเพื่อนๆ ซึ่งมีผิวขาวจึงเพียรพยายามนำสีดำมาทาตัวหรือใส่เสื้อผ้าสีดำเพื่อนฝูงเป็นการอำพรางตัวเพื่อไม่ให้ดวงวิญญาณนั้นสังเกตเห็น และดำเนินตามวิถีทางต่อไปต่อมาในปี ค.ศ.1861 พระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษทรงเลือกฉลองพระองค์ด้วยชุดสีดำตลอดพระชนม์ชีพเพื่อแสดงถึงความพระทัยและรำลึกถึงพระสามีที่สิ้นพระชนม์ไป จากนั้นการใส่เครื่องแต่งกายสีดำจึงถือเป็นการแสดงความเตารพและระลึกถึงผู้ตายของชาวตะวันตกสำหรับคนประเทศไทยที่นิยมแต่งชุดดำไปงานศพและมอบ พวงหรีด
(wreath) หมายถึง เมื่อคนเราตายบรรดาญาติมิตรครอบครัวก็จะนำมาวางไว้ เพื่อแสดงความอาลัย และความระลึกถึง ซึ่งขนบระเบียบแบบแผนนี้ สืบทอดมาจากยุโรปเหนือเมื่อนานมาแล้ว ความเชื่อนี้คือ ทูตสวรรค์จะมานำดวงวิญญาณของคนที่เสียชีวิตไป และ ถือเป็นการแสดงความเคารพนับถือนับถือต่อทูตสวรรค์เหล่านี้ จะมองเห็นว่าการวาง พวงหรีด