ระบบไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายก็ได้ แต่ถ้าหากผู้เจ็บป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จำเป็นต้องมีผู้ดูแลคอยอุ้มขึ้นลงจากเตียง ควรใช้เตียง 3 ไกร์ หรือ 5 ไกร์ ซึ่งสามารถปรับระดับสูงต่ำได้ ช่วยลดภาระของผู้ดูแลด้วย ในกรณีที่ผู้เจ็บป่วยต้องการเลี้ยงดูตัวเองให้ได้ หรือต้องการฟื้นฟูสุขภาพจิตและสุขภาพกายให้เร็วยิ่งขึ้น ควรเลือกเตียงที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ทั้งนี้เพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้น และยังผ่อนแรงของผู้ดูแลด้วย อีกหนึ่งเรื่องที่ก่อนจะเลือกซื้อ เตียงสำหรับคนป่วยนั้น สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือวัสดุที่ทำ เช่น พื้นเตียง มีหลายแบบทั้งพื้นไม้ พื้นเหล็กปั๊มเจาะรูระบาย พื้นอลูมิเ เตียงผู้ป่วย
ได้ ดังนี้1. เตียงระบบมือหมุนธรรมดา หมายถึง เป็นที่นอนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยระบบไกร์ ที่เป็นรูปร่างการวนรอบ เพื่อข้อเสือทำงานและยกพื้นที่นอนขึ้น จุดดีคือ น้ำหนักเบาความถูก ที่นอนแบบมือหมุนสามารถพบได้เยอะตลอดตามโรงหมอ 2. เตียงระบบกระแสไฟฟ้า เป็นเตียงนอนที่ดำเนินการด้วยระบบกระแสไฟฟ้า ส่งผ่านมอเตอร์เพื่อเคลื่อนข้อเหวี่ยงให้ทำงาน ข้อดีของเตียงนอนแบบนี้คือ สะดวกสบายทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแล อีกทั้งคนเจ็บยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ด้วยเพียงแค่กดปุ่ม เป็นการหดหายภาระของผู้ดูแลไปได้มาก ตัวระบบไฟฟ้าใช้ไฟมาตรฐานที่ 220 โวลท์สั่งงานด้วยรีโมทมีสาย ทั้งนี้ควรมีแบตเตอรี่เก็บสำรองหรือระบบเพลาสำรองแบบหมุนมือด้วย การปันตามประเภทฟังก์ชั่นของ
เตียงผู้ป่วย เตียงผู้ป่วย
ก่อนนั้นปริมาตรกฏเกณฑ์ของที่นอนคือ กว้าง 96 ซม. ยาว 210 และสูง 55 ซม. โดยมีราวกั้นที่นอนและเป็นได้ปรับขึ้น-ลงได้เพื่อความปลอดภัยของคนเจ็บ มีที่ล็อคล้อกันการลื่นไถล และด้วยการก้าวหน้าต่างๆ ทำให้ล่าสุด เราสามารถแบ่งประเภทของ เตียงผู้ป่วย
ที่ดีทำด้วยควรเน้นที่ความแข็งแรงทนทานความสะดวก และความสวย ตามลำดับ โดยสิ่งแรกที่ต้องทบทวนถึงก็คือ ความทนทนทาน ส่วนประกอบที่นอนควรทำจากเครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นเหล็ก เพื่อรองน้ำหนักของผู้ป่วยได้อย่างน้อย 150 kg. ด้านหัวเตียงนอนท้ายที่นอนต้องมีความคงทนควรทำจากพลาสติก ABS ซึ่งมีความคงทนถาวร การเคลือบสีต้องได้คุณภาพไม่เกิดสนิม ระบบไกร์ควรเป็นวัตถุที่ทำมาจากเหล็ก ในเรื่องความปลอดภัยนั้น ที่นอนที่ดีต้องมีระบบสวัสดิภาพ เช่น มีราวเตียงนอนกันตก มีที่ล็อคล้อทั้ง 4 ล้อ บางรุ่นอาจมีระบบล็อคล้อคับขัน เพื่อปั๊มหัวใจหรือการทำ CPR นั่นเอง วิภาเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกันที่นอนที่มีความสวยงามจะทำให้ผู้ป่วยมีสุขภาพจิตดี ไม่รู้สึกหม่นหมองและเหมาะกับการเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้ด้วยการเลือกที่นอนสำหรับคนเจ็บต้องคำนึงถึง การใช้งานเป็นหลัก แล้วพินิจพิเคราะห์จากรุ่นของเตียงว่าต้องการแบบไหน หรือสามารถใช้แบบไหนได้ ดูตามความเข้าที รวมไปถึงงบประมาณที่ตั้งไว้ ในกรณีที่ผู้เจ็บป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น สามารถลุกนั่งจากที่นอนได้เอง อาจคัดเลือกใช้เตียงได้หลากหลายขึ้น ทั้ง 2 ไกร์ 3 ไกร์ 5 ไกร์ หรือ ใช้ เตียงผู้ป่วย
1. เตียง 2 ไกร์ เป็นเตียงที่สามารถปรับยกศีรษะ และปรับยกขาได้ สามารถปรับระดับองศาของเตียงนอน ในชิ้นส่วนบริเวณหัวเตียงปรับระดับได้ 0-80 องศาตามแนวระนาบพร้อมทั้งในระดับปลายเท้า บริเวณช่วงขาแข้งหรือเข่า ในท่างอหัวเข่าได้ ปรับระดับได้ 0-40 องศาตามแนวราบ2. เตียง 3 ไกร์ เป็นเตียงนอนที่สามารถปรับยกศีรษะ ปรับยกขา และปรับระดับสูง-ต่ำของเตียงได้ ในส่วนบริเวณหัวเตียง ปรับระดับได้ 0-80 องศาตามแนวระนาบ ส่วนลำดับชั้นปลายเท้า บริเวณช่วงขาหรือหัวเข่า ในท่างอเข่าได้ ปรับระดับได้ 0-40 องศาตามแนวระนาบ และในส่วนการปรับระดับสูง-ต่ำของเตียงนอน ปรับสูงต่ำได้สูงสุด 38-80 เซนติเมตร ทำให้สะดวกในการขึ้นลงของผู้บาดเจ็บ3. เตียงนอน 5 ไกร์ เป็นเตียงที่สามารถปรับระดับศีรษะ ปรับยกขา ปรับระดับสูง-ต่ำของที่นอน และปรับเอนหน้าหรือหลังของเตียงนอนได้ ส่วนบริเวณหัวเตียงนอน ปรับระดับได้ 0-80 องศาตามแนวระนาบ ส่วนระดับปลายเท้า บริเวณช่วงขาหรือเข่า ในท่างอเข่าได้ ปรับระดับได้ 0-40 องศา ตามแนวระนาบ ส่วนการปรับระดับสูง-ต่ำของที่นอน ปรับสูง-ต่ำได้สูงสุด 38-80 เซนติเมตร ปรับเอนหน้าหรือหลังของเตียงนอนได้ในแนวตั้งฉาก 90 องศา และปรับนอนได้จนสุด เตียง 5 ไกร์เป็นส่วนใหญ่จะเป็นระบบกระแสไฟฟ้า เตียงผู้ป่วย

เป็น เตียงนอนสำหรับคนเจ็บ ที่ใช้หลับนอน หรือที่หยุดพักอันสะดวกสบายสำหรับผู้เจ็บป่วยซึ่งมีความดีเยี่ยมแปลกจากเตียงปกติโดยทั่วไป เพราะจำเป็นจะต้องต้องเอื้ออำนวยความง่ายดายให้แก่คนเจ็บและผู้ดูแล กล่าวคือ ต้องทำเป็นปรับระดับความชันของการเอนหลังขา หรือไม่ เข่า พร้อมด้วยอันดับความสูงของเตียงนอนได้ การแยกกลุ่มของ เตียงผู้ป่วย