ราคาถูกกว่าที่อื่น เราก็เริ่มให้ความสนใจแต่ว่า1กิโลนี่มันก็เยอะไปเห็นคนแบ่งวางขายกันแค่กระปุกละ 5-10 กรัมเอง แต่เมื่อบวกลบคูณหารสนนราคามันก็ช่างแสนถูก เราตระหนักขึ้นได้ว่าเอ๊ะ หรือเราจะซื้อแล้วเอามาแบ่งขายดีนะ ทีนี้พอได้โอกาสนำเอามาจำหน่ายลูกค้าก็เริ่มมาเรื่อยๆ ดีเนื้อดีใจเลยค่ะได้เงินก้อนแรกในชีวิต แต่ในระยะเวลาที่เราใช้เอง เราก็ยังไม่รู้สึกติดใจมากเท่าไหร่ มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ เราเห็นตั้งชื่อว่าแป้งโฟมเกาหลี ก็คิดไว้ว่าคงจะทาแล้วหน้าเงาวิ้งๆแน่ๆ แต่ปรากฏว่าเนื้อมันค่อนข้างแห้งไปจนเหมือนรองพื้นเนื้อมูสแบบแห้งๆยิ่งกว่า นี่คืออีกจุดเริ่มที่เราเริ่มมองหา โรงงานผลิตครีม
ก่อนอื่นจำเป็นจะต้องขอบอกให้ทราบก่อนเลยว่ารากฐานของเราเป็นคนชื่นชอบเรื่องราวทำมาค้าขายอยู่แล้ว และชื่นชอบเรื่องสวยๆงดงามๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะแรกๆก่อนที่จะการขายของออนไลน์ตาม facebook เริ่มต้นเป็นกระแสเราก็ชื่นชอบซื้อหาของตามเว็บไซส์ต่างๆ ทั้งพรีออเดอร์เครื่องสำอางประเทศเกาหลีหรือบางคราวก็เข้าพิจารณาบอร์ดที่คนขายชอบเข้าไปโพสขายของกันเราก็ชอบไปดู แรงบันดาลใจที่ต้องการค้าขายมันเริ่มต้นขึ้นจากที่ว่ามีอยู่วันนึงเราไปเห็นผู้ค้าขายแป้งโฟมในบอร์ดที่หนึ่ง เราก็เริ่มสงสัยว่าแป้งโฟมมันคืออะไรน่าใช้จัง ต้องการซื้อมาทดลองใช้แต่ราคาก็มีราคามาก แถมไม่มีอ.ย. ไม่มีสิ่งไรรับประกันได้เลยว่าเป็นของใช้ที่ได้มาตรฐานจึงหยุดพักเอาไว้ก่อน ก็ดูแป้งโฟมของหลายๆเจ้าหลายๆแม่ค้าไป สักพักก็ไปเห็นกระทู้นึงที่มีคนมาโพสไว้ว่า ขายแป้งโฟมยกกิโล ส่งตรงจาก โรงงานผลิตครีม
ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก หายาก แต่จุดดีคือโรงงานเถื่อนก็จะไม่เยอะเท่าปัจจุบันนี้ ในที่สุดหาเจอได้โรงงานมีคุณภาพ แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่าที่เราได้มา และต้องสั่งจำนวนรวมมาก เลยคิดว่า 1 กิโลกว่าจะขายหมดก็ใช้เวลาพอสมควร แต่ว่าโรงงานที่เราเลือกสรรกลับบังคับให้สั่งจำนวน 5 กิโลเป็นอย่างต่ำ แต่โชคดีที่ว่าสามารถคละสีได้ เราเลยเริ่มคิดว่าหรือเราควรคละสีมาแล้วบอกลูกค้าว่าสีไหนสรรพคุณช่วยอะไรบ้าง อย่างนี้ต้องทำสลากถ้ามีฉลากไหนๆก็ทำโลโก้ไปด้วยเลย เพราะว่าตอนแรกเราไม่มีเงินมากพอไปจ้างทำ เนื่องมาจากเรายังเรียนหนังสืออยู่ จึงต้องลองทำมั่วๆเองไปก่อนโชคดีที่พอมีฝีไม้ลายมือด้านการใช้ Photoshop อยู่บ้าง และแล้วแบรนด์แรกของเราก็มีขึ้น โชคดีของเราอีกครั้งที่ระยะเวลานั้นกำลังเป็นยุคที่เริ่มเข้าสู่การจัดจำหน่ายของออนไลน์ที่ดังสุดๆ เรียกได้ว่าเราเข้าตลาดมาได้ตรงเผงจังหวะสุดๆ แป้งโฟม 5 กิโลของเราหมดในระยะเวลารวดเร็วในการโพสขายที่บอร์ดแห่งนั้น เราเพิ่มปริมาณการสั่งขึ้นทีละนิดๆ จนสุดท้ายเรากลายเป็นขาประจำของ โรงงานผลิตครีม

เป็นคนทำหน้าที่ให้ มองย้อนไปในระยะเวลาตอนแรกที่เริ่มต้น เราสามารถทำเงินจากการแบ่งขายครีมที่ซื้อหามาจากแม่ค้าคนอื่นได้กำไรประมาณหลักร้อย เท่านั้นเราก็ดีอกดีใจ สุดท้ายมันเพิ่มปริมาณเป็นหลักพัน หลักหมื่นและหลักแสนภายในเวลาอันรวดเร็ว หลักๆที่เราอยากจะบอกทุกท่านที่อยากทำครีมแบรนด์ของตัวเองเลยว่า โรงงานผลิตครีม
1. คุณมีผู้ซื้อหรือยัง? หาให้เจอว่าลูกค้าคุณคือใคร คุณจะขายผลิตภัณฑ์อะไรให้เขา คุณต้องมั่นอกมั่นใจว่า ถ้าขาย เขาจะซื้อถ้าขนาดแค่ตัวคุณเองยังคิดว่า ถ้าเป็นฉันฉันก็ไม่ซื้อ ก็เลิกไปได้เลยเพราะไม่มีลูกค้าซื้อแน่ๆ โรงงานผลิตครีม
2. สินค้าต้องได้ผล! สินค้าเรื่องความสวยความงามยังเป็นของที่ขายดิบขายดีอยู่เสมอ แต่!!สิ่งที่จะทำให้คุณชนะคู่แข่งขันได้คือการเก็บฐานลูกค้า ถ้าลูกค้าที่คุณหามาด้วยความลำบากแล้วเขายินยอมซื้อคุณแล้ว แต่สุดท้ายก็ใช้ไม่เห็นผล เขาก็จะจากคุณไปอยู่ดี แต่หากว่าคุณหาลูกค้ามาได้ แล้วของซื้อของขายของคุณทำให้ลูกค้าหลงรัก นอกจา โรงงานผลิตครีม
ที่ได้มาตรฐาน หายุ่งยากมากๆเลยขอบอก เพราะเมื่อก่อนแป้งโฟมและการทำครีมต่างๆยังไม่ค่อยโด่งดัง
โรงงานผลิตครีม โรงงานผลิตครีม
แห่งนี้และเจ้าของโรงงานก็พูดว่าเราคือลูกค้าที่อายุน้อยที่สุดของเขา เราเริ่มต้นบุกไปที่ตลาดใน facebook เริ่มสร้างเพจจนมีคนกดไลค์เป็นจำนวนมาก ผู้ใช้เริ่มถามว่าแป้งโฟมตัวนี้ใช้แล้วขาวถาวรเลยหรือเปล่า(แป้งโฟมคือผลิตภัณฑ์ที่เหมือนรองพื้นนะคะ ไม่ได้มีครีมช่วยบำรุงรักษาแต่อย่างใด) เราจึงคิดว่า ไหนๆเรียกร้องมาขนาดนี้แล้ว จัดสั่งผลิตครีมใหม่ทั้งครีมหน้าขาว ตัวขาว สบู่ และขอบอกว่าผลกำไรที่เราได้รับนั้น 2-3 เท่าเลยทีเดียว บางครั้งสามารถทำกำไรได้มากถึง 10 เท่าด้วยซ้ำ จากต้นทุนที่ได้รับ แต่ครีมทุกจำพวกของเรามีอ.ย.ที่จดจากสูตรโรงงาน ในที่สุดเราจึงตัดสินใจจดอ.ย.ด้วยชื่อแบรนด์ของเราเองโดยให้ทาง โรงงานผลิตครีม
เพราะว่ารู้สึกชอบในหลายๆอย่างของสินค้าตัวนี้ เพียงแต่อยากพัฒนาให้มันดีกว่าเดิม ทีนี้ก็เสิร์ชตามกูเกิ้ลไปทั้งวันเลยค่ะ หา โรงงานผลิตครีม