การเลือกสรรใช้งานสายไฟบางกอกเพื่อให้ถูกการใช้งานและเหมาะสม

[JoshuaPowell25]

เกิดความร้อนเมื่อเราโดนหรืออยู่ใกล้ๆ ก็ควรรีบให้ช่างไฟเข้ามาพิจารณา เพื่อหาจุดที่กระแสไฟฟ้าเกินหรือเกิดการ

โดยที่เปลี่ยนแปลงหลักๆจะเป็นการเดินของสายไฟ และ รหัส ที่ใช้เรียกสายไฟ

<span style=
line-height: 1.42857;
>รวมถึงในสนามบินก็จะมีสายชนิดนี้อยู่มากเพื่อส่งสัญญาณ ฉุกเฉินไปยังตอนอื่นในห้องดูแล</span>

การคัดเลือกใช้งานสายไฟเพื่อให้ถูกการใช้งานและเหมาะสม

สายไฟชนิดนี้มีคุณลักษณะ พิเศษคือ สามารถทนไฟในอุณภูมิสูง หรือมีจุดหลอมเหลวสูงนั่นเอง และปกป้องรักษาการลามของไฟ ไปยังจุดอื่นๆ




<span style=
line-height: 1.42857;
>ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณของเราเองด้วย ใช่ว่าจะต้องใช้ของ over spec. อย่างเดียวถึงจะดี </span><span style=
line-height: 1.42857;
>ก็ให้ดูที่ความเหมาะสมทั้งการใช้งาน และงบประมาณของเรา </span>

<span style=
line-height: 1.42857;
>เวลาเราใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากๆ สายไฟจะมีความร้อนสะสมน้อยกว่าที่เราจะใช้สายไฟโหลดเล็ก</span><span style=
line-height: 1.42857;
>ซึ่งก็ต้องดูว่าผู้รับเหมาไฟฟ้า ใช้สายไฟบางกอก โหลดอะไร เพื่อเป็นผลดี ต่อการใช้งานในอนาคตที่อาจมีเพิ่มขึ้นอีกด้วย</span><span style=
line-height: 1.42857;
>ส่วนเคเบิลบางกอก NYY เป็นเคเบิลเคลือบฉนวน 2 ชั้น </span>ซึ่งหลักๆที่จะใช้งานกันคือเป็นสายไฟเมนเดิน จากมาตรวัด มาเพื่อเข้าแผงวงจรหลักในที่พักอาศัย<span style=
line-height: 1.42857;
>ซึ่งถ้าใช้กับ เครื่องวัด30/100A ก็อาจจะต้องเลือกสายไฟพื้นที่หน้าตัดใหญ่หน่อย คือตั้งแต่ขนาด 16 ขึ้นไป ถึง 35</span>ซึ่งจะครอบคลุม การใช้ยิ่งกว่า แต่หากใช้เบอร์16 ก็ไม่ผิดอะไร เพราะกระแสไฟใช้งานก็เพียงพอ

สายไฟบางกอก CV 0.6/1KV

<span style=
line-height: 1.42857;
>ลัดวงจร เพื่อไม่ให้เกิดอัคคีภัย ซึ่งสร้างความวิบัติต่อเงินทอง ภายหลังได้</span>

ในส่วนของการเดินสายไฟ มีทั้งการวางสายไฟแบบลอย และลากใต้ดิน รวมถึงเดินเปลือย<span style=
line-height: 1.42857;
>สายไฟบางกอก ชนิดTHW  หรือ IEC01 ซึ่ง เป็นสายไฟที่ใช้งานมากที่สุดที่ใช้ในการเดินสายไฟภายในที่อยู่</span><span style=
line-height: 1.42857;
>ไม่ว่าจะระบบแสงสว่าง </span><span style=
line-height: 1.42857;
>ปลั๊กไฟ</span><span style=
line-height: 1.42857;
> หรือสายไฟที่ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าธาตุไฟชนิดอื่นๆ ซึ่งส่วนมากจะใช้ สายไฟ THW หรือ สาย IEC01</span>เบอร์ ของสายไฟตั้งแต่ 2.5 ,4,6,10,16,35 ซึ่งถ้าเราใช้สายไฟเบอร์ใหญ่ จะทำให้

สายชนิดนี้เป็นกฏเกณฑ์นอก IEC60532 เกณฑ์สากล ซึ่งเข้ากันสำหรับใช้ในงานเดินสายไฟที่มีเกณฑ์กำหนด

ซึ่งเพลิงจะดับเอง เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง นอกจากนี้สายไฟพวกนี้ยังนิยมใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เป็นสายส่งสัญญาณที่สำคัญ

แต่จะมี ฉนวนที่บางกว่า น้ำหนักที่เบากว่า และไม่แนะนำให้สามารถเดินฝังแผ่นดินได้โดยตรง เหมือนสาย NYY

รวมถึง การปรับพิกัดกระแสของสายไฟเช่นกัน เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ใช้มากที่สุด

เพื่อให้เราพิจารณาว่า ระบบไฟฟ้าในบ้านมีความผิดปกติธรรมดา เช่น ถ้าเต้าเสียบในบ้าน หรือสายไฟในบ้าน

สายไฟบางกอก ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกและยี่ห้อที่เหมาะสมในการใช้งานทุกจำพวก

โดยถ้าเราไม่ได้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างติดตั้งงานระบบไฟฟ้าเองแล้ว อย่างน้อยก็ควรรู้ว่า ในบ้านเรามีระบบอะไรบ้าง

คุ้มครองอะไรได้บ้าง รวมไปถึงสายไฟบางกอก ที่ใช้ในบ้านเกิดความร้อนสั่งสมหรือไม่หรือที่เรียกว่า กระแสเกิน

ทำให้เราได้วัสดุที่ดีในราคา ที่พอเหมาะ และการใช้งาน และความปลอดภัยสูงอีกด้วยที่ยาวนานอีกด้วย

สำหรับการเดิน สายไฟบางกอก ในปัจจุบัน ทั้งบ้านโรงงาน หรือที่ทำการต่างๆเองก็ตาม ก็ต้องมีกฏเกณฑ์สำหรับสายไฟบางกอก

แรงดันไฟฟ้าสูงกว่าชนิด THW หรือ NYY จะทำให้ ซึ่งมีเกณฑ์กำหนดแรงดัน ประมาณ 750V

Fire Resistance Cable เป็นสายไฟที่เอาไว้ลากระบบ fire alarm เพื่อใช้ในการส่งสัญญาณเตือนภัยได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้

นี่ก็เป็นความรู้ขั้นต้นคร่าวๆของสายไฟบางกอก จำพวกต่างๆเพื่อให้ผู้ใช้งานรู้ขั้นแรกในการนำไปใช้งาน

การเลือกสายไฟแบบสายต่างๆเช่นกัน โดยปัจจุบัน เชิงอรรถตามกฏเกณฑ์การเดินสายไฟใหม่คือ มอก.2553 แล้ว

แต่ส่วนสายไฟ CV นั้นให้พิกัดแรงดันถึง 1000V ด้วยกัน และมีค่าถูกกว่า สายไฟ NYYถ้าเทียบเคียงที่ฉนวน 2 ชั้นตรงกัน

หรือพบเจอกับตัวเอง จะได้รู้ว่าผู้รับเหมา หรือการออกแบบ ใช้งานของผู้รับเหมา นั้นสมควร หรือถูกต้องแล้วหรือยัง

สายไฟบางกอก FRC หรือสาย FR