ของคนในกับคนในยุคนี้นั้นจึงมีจำนวนต่างกันมากคนในสมัยก่อนทานอาหารที่โดนต้องตามหลักอาหารงาน และเหมาะสมในแต่ละเพรา เช่นในช่วงเช้าจะทานอาหารอ่อนเน้นผักผลไม้ เพราะยังคงว่างมากอีกต่างหากมิเรียบร้อยย่อยของหนักอึ้งๆ ย่อหน้าวัน ก็จะทานหนักขึ้นเน้นเนื้อไม่ติดมันและ คืออาหารแหล่งข้อนอยู่พุงกะทิอาจจะเป็นกะทิก็ได้เพราะคนอาจจะเข้าใจผิดว่าแกงกะทิไม่ดีเพราะสนุกทำให้อ้วนและอาจจะทำมอบโรคภัย กรดไหลย้อน
ซึ่งการใช้ชีพอย่างถูกต้องตรงนี้ทำคนในกาลสมัยเก่ามีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขทัศนียภาพดีกว่าคนในสมัยอื้อซ่า แต่ก็เป็นเรื่องน่าฉีกแนวที่คนในสมัยก่อนนั้นไม่ได้มีความรู้และเรียนทราบข่าวสารสสารสาระได้มาอย่างง่ายดายเหมือนกับคนในปัจจุบัน ทั้งๆที่ในยุคนี้งานเสพพาหะหาข้อมูลนั้นง่ายแสนง่ายทั่วๆที่วิธีอยู่แค่บนฝ่าขา อย่างไรก็ดีกลับมีการใช้ชีวิตที่มิดีเพียงคนในยุคก่อนที่มีการพาหะสารแหล่งดี และมีเทคโนโลยีด้วยมาให้ความรู้เลย บางคนเกือบจะจะอ่านตำราไม่ออกด้วยอย่างไรก็ตามเค้าก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างดีพร้อมทั้งมีคุณมากกว่าคนในยุคนี้มากจริงๆ นี้จึงเป็นเรื่องน่าคิดว่าที่คนในนี้เป็นโรค กรดไหลย้อน
กันข้อนข้างอื้อซ่าเพราะความเจ็บไข้เป็นโรคของคนรีบแหล่งไม่ใส่ใจตัวเองให้ดี เนื่องจาก ในยุคนี้คนไม่นิยมทานข้าวเช้า ทั้งๆที่เป็นมื้อหลักข้าวของทิวากาลแต่จะรวบเอามื้อเพรางายและมื้อวันเอาไว้กันแต่จะรับประทานกาแฟตอบสนองเช้า ซึ่งกาแฟที่ส่งผลร้ายต่อกระเพาะที่ว่างอาหารเป็นอย่าง แล้วข้างหลังออกจากตื่นกายเครื่องใช้เรานั้นท้องจะว่างมากสามารถหรือดูดซึมซับคาเฟอีนจำนวนมากเอาไว้ได้อย่างแน่หลับไหล อย่างไรก็ดีสมัยนิยมทำให้เราดื่มกาแฟเป็นหลักกับขนมปังที่มีต้นตาลอุจทำให้สเก๊ตช์กายไม่ได้รับที่แค่พอมื้อเช้าที่จำเป็น แต่กลับไปทำร้ายด้วยกาแฟและน้ำดื่มตาลแทนดี จึงทำสละกลายเป็น กรดไหลย้อน
ตามสมัยนิยมอีกกัน แต่เทียบพร้อมกับคนในยุคก่อนแล้ว ถึงแม้สัญญาณจะอยู่ในยุคข้าวลำบากลำบนหมากมีราคามีสงครามเมืองต่างๆมากมาย แต่คนกาลสมัยนั้นก็ไม่ยินว่ามีใครที่จะคือโรค กรดไหลย้อน
มากเท่าคนในยุคตรงนี้เลย เพราะคนในยุคนั้นใส่ใจกับในๆมีและเลือกอย่างไรก็ดีขอสดสะอาดและมีค่า เช่น ในตอนเช้าก็จะหาอะไรกินง่ายๆ และมักจะเป็นของกินต้นแบบอ่อนๆอาทิ โจ้ก เกาเหลา ต้นข้าวพร้อมด้วยพืชผักผลไม้ต่างๆ หลีดเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด แต่จะทานอาหารให้แหล่งสุดๆเท่าที่จะทำได้นั้นจึงเป็นที่เมื่อเปรียบเหมือนเทียบอัตราการโรค กรดไหลย้อน
ทำไมคนในกาลสมัยนี้ถึงทำหนักกันมาก คำถามของผู้ใหญ่ที่มีต่อลูกหลานในตอนนี้ ในสายตาของคนยุคเก่าแก่ที่ทุกอย่างระดมรีบและคนไม่แข่งขันกันความจุนี้และที่สำคัญคนไม่ได้ขึดติดกับวัตถุนิยมมากขนาดนี้นั้น ในยุคนั้นกล้าหาญจะเป็นยุคที่มีสงครามลำบากหมากแพงก็จริง อย่างไรก็ดีคนในยุคนั้นก็ยังคงชำระคืนชีวิตได้ดีและมีบรรทัดโคนในงานชำระคืนชีวิตที่ดีมากกว่าคนในสมัยนี้เป็นไม่เบา ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น คนในยุคนี้เป็นโรค กรดไหลย้อน
ได้อื้อซ่าขึ้น พร้อมด้วยในมื้อเย็นเพราะปกติคนไทในสมัยก่อนจะนิยมข้าวของที่ไม่มันและเลือกตั้งทาผักมากขึ้น เนื่องจากจะไปให้กระเพาะทำงานได้ดีขึ้นในขณะ ยังรับประทานเร็วกว่าคนในกาลสมัยนี้อีกด้วย เพราะคนในยุคนั้นทานอาหารการกินค่ำประมาณหกโมงหนาวและจะทานเสร็จตอนประมาณหนึ่งทุ่มตรง ไม่ใช่ว่าเพราะไม่มีไฟฟ้ากลัวจะดูกับข้าวไม่มองเห็นอย่างไรก็ตามเค้ามีความเชื่อว่าการทานข้าวเร็วจะทำให้ ดีต่อมากกว่าทั้งยังสะดวกพุงมากกระทั่งยุคสมัยนอนด้วย เพราะกว่าจะนอนก็ประมาณไตรซึ่งห่างเหินจากมื้ออาหารสุดๆท้ายใกล้เคียงสี่โมง ซึ่งช่วงที่สเก๊ตช์ตัวได้ย่อยของกินส่วนบนไปบางส่วนทำมอบอาหารนอนท้องพร้อมด้วยไม่เป็นโรค กรดไหลย้อน
นั้นอาจจะไม่ใช่เพราะว่าเครียดรุ่ง หรือความรู้น้อยลงเพราะเครียดนั้นคนทุกยุคและมีข้อคดีลำบากลำบากไม่แพ้กัน แต่ความรู้นั้นเชื่อในสมัยตรงนี้นั้นย่อมจะหาได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตามคนในยุคนี้อาจจะนุ่งใจต่อสุขทิวภาพกว่าและสวมใจในรายรัดกุมในการใช้ชีวิตบางตากว่า จึงทำสละมีสุขภาพดีน้อยกว่า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าร้ายถ้าคนในยุคตรงนี้มีข้อคดีสนใจพร้อมทั้งใส่ใจในสุขภาพมากรุ กรดไหลย้อน
ขึ้นได้ แต่แหล่งแท้แล้วไม่ใช่เลยแกงกะทินั้นหมายถึงไขมันดีที่มีอยู่ในธรรมและร่างสามารถนำไปใช้ได้เลย แล้วจึงเป็นไขสนุกดีที่เราสามารถบริโภคได้กล้าจะควรจำกัดการทานหน่อย เพราะอย่างไรสะก็ขึ้นชื่อว่าน้ำดื่มมันกะทิ อาจจะส่งผลมิดีร่างกายได้ เนื่องจากอะไรที่กินไม่เบาเกินไปก็ดี จงบริโภคแต่พอดีจึงจะสม เพราะมื้อกลางวันสำคัญแพ้มื้อเช้าเลยเพราะร่างกายจะนำศักดางานนี้ไปใช้ตลอดช่วงเอี้ยวที่เราต้องนั่งทำงานเลี้ยง และนั่งเรียนจึงต้องอำนาจงานแหล่งสมสมสำหรับให้ร่างตัวนำนำไปใช้ได้ทันที และลดความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรค
กรดไหลย้อน กรดไหลย้อน
Dilber MC Theme by HarzeM