ถ้าฐานที่เป็นสีจะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้องพิมพ์สีใส่กระดาษแล้วเอามาห่อกระดาษเทาแข็งที่เราเรียกกันว่าจั่วปังอีกที
องค์กร แจกง่ายคนภายในก็ใช้ ลูกค้าก็เอาไปใช้ได้และช่วยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์และบริษัทได้ด้วย ดังนั้นแทบจะทุกบริษัทใหญ่ๆมักจะผลิตปฏิทินแจกกันทั้งนั้น บางบริษัทผลิตปีละหลายแสนฉบับและส่งแจกจ่ายทั่วประเทศจนเป็นธรรมเนียมประจำไปแล้วไม่ทำไม่ได้
โดยปกติมักจะเอาไปแจกพร้อมกับสินค้าพรีเมี่ยมที่บริษัทเตรียมไว้ให้
ห่วงส่วนใหญ่จะไปในทางเดียวกันกับฐาน อาทิเช่น ถ้าสีขาวก็ห่วงขาว สีดำก็ห่วงดำ บางทีอาจจะมีสีพิเศษเช่นเงินหรือทองซึ่งราคาก็จะแพงขึ้นไปอีกขึ้นกับความต้องการว่าเราอยากให้ปฏิทินเราออกมาในระดับไหน
แต่นอกจากสินค้าพรีเมี่ยมที่จะเอาไปแจกแล้ว (อาทิเช่น ปากกา กระดาษโน้ต เสื้อยืด เป้ พวงกุญแจฯลฯ)
หรือแบบ 13 แผ่นแบบนี้ก็จะใส่ภาพได้มากใส่เนื้อหาได้เยอะเพราะแต่
ฐานปฏิทินส่วนใหญ่นิยมใช้สีขาวแต่ในกรณีที่บริษัทนั้นมีสัญลักษณ์ของสีประจำบริษัทชัดเจนก็จะสั่งทำฐานให้เป็นสีเดียวกับบริษัท เช่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็จะใช้สีเหลือง บริษัททรูส์ก็จะใช้สีแดง ฯลฯ
ส่วนแบบตั้งโต๊ะนิยมมากกว่าเพราะสวยใช้ง่าย แข็งแรง ไม่กินพื้นที่และที่สำคัญวางอยู่บนโต๊ะตลอดเวลา
เนื้อหาในปฏิทินคือส่วนสำคัญที่สุด
ก็มีสิ่งหนึ่งที่นิยมทำกันคือปฏิทิน
ก็แค่ชำเลืองมองไม่ยุ่งยากอะไร อีกทั้งปฏิทินสมัยนี้แข่งกันออกแบบดีไซน์ทั้งรูปลักษณ์ทั้งสีสันเพื่อเชื้อเชิญให้คนใช้เลือกใช้ และยิ่งถ้าออกแบบให้เขากับ
สินค้าพรีเมี่ยมที่บริษัทแจกด้วยก็ยิ่งดี ลองนึกถึงสินค้าพรีเมี่ยมบางอย่างเช่นสมุดโน้ตไดอารี่ที่วางคู่กับปฏิทินเป็นสีโทนเดียวกันและมีดีไซน์ไปในทิศทางเดียวกันดูครับ อย่างที่บอกข้างต้นครับว่ามีหลายบริษัทที่ผลิตปฏิทินมาแจกจึงเป็นไปได้ว่าคนหนึ่งคนอาจจะได้ปฏิทินซ้ำแบบกันและอาจจะต้องเลือกอันเดียวที่จะวางบนโต๊ะ การออกแบบจึงค่อนข้างสำคัญให้ดูดีสวยงามใช้งานง่าย ถ้าเราจะผลิตปฏิทินแจกลูกค้ามีอะไรที่เราต้องพิจารณาบ้างลองมาดูทีละข้อนะครับ สินค้าพรีเมี่ยม
แต่แนวนอนจะนิยมกว่า เพราะการวางเลย์เอาท์ออกแบบเอาภาพประกอบใส่จัดวางตัวหนังสือทำได้ง่ายและออกมาดูดีกว่าเพราะภาพถ่ายส่วนใหญ่มักจะถ่ายมาแนวนอน ไม่ได้มีขนาดมาตรฐานแต่มีขนาดที่นิยมใช้กันคือ 6x8 นิ้วกับ 7x9 นิ้ว ส่วนของปฏิทินนั้นมีองค์ประกอบ3 ส่วนคือขาตั้งสามเหลี่ยมปฏิทินแผ่นปฏิทินและลวดห่วงกระดูกงู
เนื่องจากปฏิทินเป็นของที่จะได้ใช้ตลอดทั้งปี แม้ความจริงแล้วในยุคสมัยนี้เราจะมี calendar กันในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วก็ตามแต่ปฏิทินก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ดี
แบบตั้งโต๊ะมีทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอนแล้วแต่ความชื่นชอบ
แบบ 7 แผ่นคือมีปกหน้ากับเดือนปฏิทิน 12 เดือนหน้าหลังรวมอีก 6 แผ่น
ปฏิทินที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่จะมีอยู่สองแบบคือแบบตั้งโต๊ะและแบบแขวนครับ
หรือถ้าบางบริษัทมีงบประมาณจำกัดก็อาจจะไม่ทำสินค้าพรีเมี่ยมแจกแต่เลือกแจกปฏิทินแทน
ลวดห่วงกระดูกงูสำหรับร้อยสำหรับยึดเนื้อปฏิทินกับฐานนั้นควรเลือกสีและชนิดให้เหมาะสมกับดีไซน์ของปฏิทิน
เราสามารถเลือกได้ว่าอยากได้จั่วปังเบอร์อะไรหากไม่รู้ก็คุยกับทางโรงพิมพ์ว่าอยากได้ความหนาของฐานเท่าไหร่
เพราะคนส่วนมากยังชอบดูอะไรจากกระดาษและง่ายๆกันอยู่เพียงแค่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะและอยากจะดูวันที่
สินค้าพรีเมี่ยมที่แจกให้ไปลูกค้าอาจจะเก็บไว้เป็นที่เป็นทางแต่ปฏิทินจะโชว์ภาพบริษัท ชื่อบริษัท โลโก้สินค้าอยู่บนนั้นและมันจะอยู่ในสายตาของลูกค้าเรื่อยๆอันนี้เป็นสิ่งสำคัญ
ส่วนใหญ่บริษัทจะเป็นฝ่ายออกแบบแล้วค่อยว่าจ้างโรงพิมพ์ผลิตซึ่งการออกแบบนั้นก็รวมทั้งเลือกสี่ของฐานปฏิทิน
เช่น ปฏิทินและสมุดโน้ต ปฏิทินและปากกาเป็นต้น
แบบแขวนจะได้รับความนิยมน้อยกว่าแบบตั้งโต๊ะเพราะต้องหาที่แขวนและหาพื้นที่ซึ่งส่วนมากจะค่อนข้างกว้างเนื่องจากต้องมองเห็นระยะไกลทำให้นิยมน้อยกว่าแต่ต้นทุนถูกกว่า
ส่วนใหญ่แล้วมักจะพิมพ์จำนวนแผ่นอยู่สองแบบ
อย่างไรก็ตามปฏิทินแบบแขวนมีแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมในบริษัทบางกลุ่มคือปฏิทินฉีกแบบที่มีภาษาจีน จะเหมาะกับลูกค้าที่เป็นบริษัทจีนมากๆเพราะมีฤกษ์วันเกี่ยวข้องในการดูฮวงจุ้ยด้วย
หรือเหมือนอย่างที่บอกตอนต้นว่าเราอาจจะออกแบบให้ฐานปฏิทินสีเดียวกับสินค้าพรีเมี่ยมก็ได้
เหตุเพราะปฏิทินเป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าของ
ปฏิทินเป็นงานสิ่งพิมพ์ที่มีความต้องการในการผลิตมากในช่วงท้ายปีจนถึงต้นปีเพราะเป็นที่นิยมที่บริษัท
จะเอาไปแจกให้ลูกค้าตั้งบนโต๊ะหรือแขวนกับข้างผนังก็ได้แล้วแต่รูปลักษณ์ที่ออกแบบมา
อย่างแรกประเภทของปฏิทิน