ชมรมเจ้ามือหวย
 
*
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน พฤษภาคม 02, 2024, 03:08:59 am


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น


ผลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 16 กรกฎาคม 2565 รางวัลที่ 1 620405 รางวัล3ตัวหน้า 159 834 รางวัล3 ตัวท้าย 279 061 รางวัลเลขท้าย 2ตัว 53




เว็บโปรแกรมเจ้ามือหวย



ทำงานแบบมีหลักการ ไม่กล้าจนเกินตัว ไม่กลัวจนเกินเหตุ
ปณิธานของชมรมเจ้ามือหวย
ทางชมรมเจ้ามือหวย หวังแค่เพียงเพื่อนๆ อยู่กันแบบเป็นพี่เป็นน้อง จริงใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ร่วมมือกันในการแบ่งปันข้อมูล มีอะไรดีๆ ก็นำเสนอแก่เพื่อนสมาชิก เพื่อเป็นแนวทางในการทำงาน
หรือระวังป้องกันให้ชาวชมรมได้อยู่ในวงการตลอดไปนานเท่านาน
ขอบคุณจากใจจริง
nongnai


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เลือกเครื่องฟอกอากาศให้ดี ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 วายร้ายกวนใจปอด  (อ่าน 70 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
guupostTopic starter
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เข้ามาล่าสุด:เมษายน 20, 2024, 09:47:20 pm
กระทู้: 1059

ระบบปฏิบัติการ::
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
บราวเซอร์::
Firefox 54.0 Firefox 54.0


อีเมล์
« เมื่อ: เมษายน 20, 2023, 07:45:58 pm »



การเลือกซื้อเลือกหาเครื่องฟอกอากาศในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมสูงด้วยเหตุว่าปริมาณฝุ่น PM 2.5 มีมากขึ้นเรื่อย ๆ และหากปล่อยไว้คงไม่เป็นผลดีต่อปอดแน่นอน ทว่าใครที่กำลังจะเลือกซื้ออาจเกิดความสับสน สงสัย และไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไร เราไม่รอช้าที่จะพาไปศึกษาอย่างละเอียด ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันได้

เลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสม เพื่อการป้องกัน PM 2.5 อย่างดี
1. เลือกให้เหมาะกับพื้นที่ห้อง
สิ่งแรกที่มองข้ามไม่ได้ก็คือขนาดพื้นที่ห้องที่ใช้งาน ไม่ว่าจะห้องนอน ห้องรับแขกใด ๆ แล้วนั้นต้องมีขนาดเครื่องที่พอดีกับขนาดห้อง ดังนั้น เราจึงต้องทราบและคำนวณพื้นที่ห้องเสมอ ยิ่งเลือกครอบคลุมพื้นที่ได้ดีก็ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ไม่เสียเงินเปล่า

2. ค่า CADR
ที่เรียกอีกอย่างว่าค่าตัวเลขที่จะวัดปริมาณอากาศจากระบบฟอกอากาศเป็นความสามารถในการทำความสะอาดที่ปนเปื้อน ตัวอย่างเช่น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ เกสรดอกไม้ ฝุ่น PM 2.5 ฯลฯ ยิ่งเลขมากประสิทธิภาพการกรองก็ดีมากตามไปด้วย ช่วยให้เราตกลงใจได้ง่าย หากเครื่องมีแผ่นกรองที่คุณภาพดี เราก็ดูค่า CADR ได้ตามคู่มือเครื่อง หรือข้อมูลผลิตภัณฑ์

3. ไส้กรอง หรือระบบกรองอากาศ
ที่แต่ละยี่ห้อก็จะมีแตกต่างกัน อาทิเช่น เครื่องฟอกอากาศ Philips หรืออื่น ๆ ที่หากเป็นแบบ HEPA ก็จะสามารถดักจับฝุ่นขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ดี ทำให้บ้านสดชื่น ไม่เป็นภูมิแพ้ ไม่เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งควรมีฟังก์ชันอื่น ๆ ด้วย ได้แก่ ตรวจสอบการทำงานผ่านแอป หรือสั่งการผ่านแอปได้ แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรอง ฯลฯ กระนั้นราคาก็จะต่างกันออกไปตามฟังก์ชันที่มี

4. ระดับเสียงเมื่อทำงาน
เรื่องเสียงของเครื่องนั้นก็สำคัญ โดยที่หากนำไปวางตั้งแล้วเปิดเครื่องก็ควรจะมีระดับเสียงที่ต่ำ หรือไม่มีเสียงรบกวนเลยยิ่งดี โดยเฉพาะการไปวางในห้องนอน ซึ่งเสียงที่เหมาะไม่ควรเกิน 30 – 35 เดซิเบล เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนขณะนอนหลับ ตัวอย่างเช่น เครื่องฟอกอากาศ sharp ก็มีเสียงที่เบาไม่น้อย

5. ค่า Air Volume หรือ Airflow
ที่จะเป็นค่าความเร็วลมจากปริมาณในอากาศดูดเอาเข้าไปและปล่อยที่บริสุทธิ์ออกมา หากมีค่า Airflow มากยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการฟอกอากาศเร็วตามไปด้วย เท่ากับว่าเราจะได้เครื่องที่ทำอากาศบริสุทธิ์ไว ดูค่า Airflow ได้จากข้อมูลพื้นฐานเครื่องได้เลย ใครใช้กับห้องใหญ่ ๆ พิจารณาค่านี้ไว้เป็นพิเศษดีเลย

ด้วยความที่สภาพอากาศในไทยปัจจุบันค่อนข้างน่ากลัวไม่น้อย ด้วยฝุ่นควัน มลพิษ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ที่รุนแรงอยู่ตลอด และการใช้งานเครื่องฟอกอากาศจึงกลายเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดหมดห่วงวายร้ายทำลายปอดไปได้ ซึ่งเราก็หวังว่าภายหลังจากนี้การเลือกซื้อเลือกหาของทุกท่านจะมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องได้อย่างดี

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0201
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2009, Simple Machines

Valid XHTML 1.0! Valid CSS! Dilber MC Theme by HarzeM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.045 วินาที กับ 22 คำสั่ง