ทำไมคนในนี้ถึงทำหนักกัน คำถามของผู้ใหญ่ที่มีต่อลูกหลานในตอนนี้ เพราะว่าในสายตาของคนยุคเก่าที่ทุกอย่างเปล่าระดมรีบและคนไม่ได้มาแข่งขันกันนี้และที่สำคัญเป็นคนไม่ได้ขึดติดกับวัตถุมากขนาดนี้นั้น ในยุคนั้นจะเป็นยุคที่มีสงครามต้นข้าวยากหมากก็จริง อย่างไรก็ตามคนในยุคนั้นก็ยังคงชดใช้ชีวิตได้ดีและมีบรรทัดโคนในการชีวิตที่ดีมากกว่าคนในยุคนี้เป็นอย่าง ยกตัวทำนองง่ายๆเช่น คนในยุคนี้เป็นความเจ็บไข้ กรดไหลย้อน
ได้ และในมื้อเย็นเพราะว่าปกติคนสยามในสมัยก่อนจะนิยมกินเครื่องใช้แห่งไม่มันและลงคะแนนทาผักมากขึ้น จะไปสละทำงานได้ดีขึ้นในขณะหลับ ทั้งยังรับประทานเร็วกว่าคนในยุคนี้อีกด้วย เพราะคนในยุคนั้นทานย่อหน้าประมาณหกโมงและจะกินเสร็จตอนประมาณหนึ่งทุ่มตรง ไม่ใช่ว่าเพราะไม่มีไฟฟ้าพร้อมด้วยกลัวนินทาจะมองกับข้าวไม่เห็นเค้ามีความเชื่อว่าการทานต้นข้าวเร็วจะทำให้ ดีต่อกระเพาะอาหารมากกว่าทั้งยังสะดวกพุงมากกระทั่งนอนด้วย เพราะกว่าจะนอนก็ประมาณตรีทุ่มซึ่งห่างเหินจากมื้อท้ายสี่โมง ซึ่งคือที่ร่างตัวได้แบ่งอาหารการกินส่วนบนไปบางส่วนทำให้อาหารหลับไหลท้องพร้อมทั้งไม่โรค กรดไหลย้อน
มากแค่คนในยุคนี้เลย เพราะคนในสมัยนั้นใส่ใจกับอาหารการกินในๆมีและเลือกรับประทานอย่างไรก็ดีขอสดสะอาดและมีค่า เช่น ในตอนเช้าก็จะหาอะไรกินง่ายๆ และมักจะเป็นแม่พิมพ์อ่อนๆอาทิเช่น โจ้ก เกาเหลา ข้าวเคี่ยวพร้อมด้วยผักผลไม้ต่างๆ หลีดเลี่ยงอาหารมีรสจัด แต่จะทานอาหารให้ครบพวกแห่งสุดเท่าที่จะทำได้นั้นจึงเป็นแห่งเมื่อเปรียบเสมือนเทียบอัตรางานโรค กรดไหลย้อน
[youtube]youtube.com/watch?v=1kZ0xLGt5vg[/youtube]
นั้นอาจจะไม่ใช่เครียดไม่เบารุ่งโรจน์ หรือได้ความรู้น้อยลงเพราะเครียดนั้นคนทุกยุคและมียากลำบากไม่แพ้กัน แต่ความรู้นั้นเชื่อว่าในสมัยนี้นั้นย่อมจะหาได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตามคนในยุคนี้อาจจะใส่ใจแก่สุขทิวภาพกว่าและนุ่งใจในรายละเอียดในการใช้ชีพกว่า จึงทำมีสุขภาพดีน้อยกว่า เชื่อคนในยุคมีข้อคดีสนใจใส่ใจในสุขภาพมากขึ้นจะต้องมีสำราญภาพและคุณภาพชีพแห่งดีขึ้นอย่างแน่นอน
กรดไหลย้อน กรดไหลย้อน
ของคนในสมัยพร้อมกับคนในยุคนี้มีจำนวนต่างกันมากเพราะว่าคนในกาลสมัยก่อนทานอาหารที่โดนต้องตามหลักอาหารการ และสมสมในแต่ละมื้ออาหาร เช่นในช่วงเช้าจะทานอาหารอ่อนเน้นผักผล เพราะกระเพาะยังคงว่างมากไปอีกต่างหากไม่เสร็จย่อยของหนักอึ้งๆ กลางวัน ก็จะทานหนักขึ้นเน้นเนื้อไม่ติดแน่นมันและ คืออาหารแหล่งค่อนขั้วอยู่พุงอาจจะเป็นกะทิก็ได้เพราะมากมายคนอาจจะใจผิดว่าแกงกะทิไม่ดีเพราะทำให้อ้วนและอาจจะทำให้เกิดความเจ็บไข้ กรดไหลย้อน
ขึ้นได้ แต่แหล่งแล้วใช่เลยแกงกะทินั้นคือไขมันดีที่มีอยู่ในธรรมและโครงตัวเก่งนำไปใช้ จึงเป็นไขดีที่กูบริโภคได้กล้าหาญจะจำกัดการทาน เพราะอย่างไรสะก็ขึ้นนามว่ามันส์กะทิ แล้วจึงอาจจะส่งผลเปล่าดีกับร่างตัวได้ เพราะอะไรที่รับประทานมากเกินไปก็เปล่าดี ต้องบริโภคแต่พอดีจึงจะเหมาะสม เพราะมื้อกลางวันนั้นสำคัญเปล่าแพ้มื้อเพรางายเลยเพราะร่างกายจะนำศักดางานนี้ไปใช้ตลอดช่วงที่เราต้องนั่งทำงานฉลอง และนั่งเรียนจึงต้องคืองานที่เหมาะสมสมให้ร่างตัวนำนำไปใช้ได้ทันที และลดความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรค กรดไหลย้อน
ตามสมัยการตั้งกฎเกณฑ์อีกตัวอย่างเช่นกัน แม้เทียบพร้อมกับคนในยุคก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าวี่แววจะอยู่ในข้าวลำบากลำบนหมากแพงมีสงครามเมืองต่างๆมากมาย คนนั้นก็ไม่ได้มายินว่าร้ายมีใครที่จะหมายถึงโรค กรดไหลย้อน
ซึ่งวัตถุปัจจัยการใช้อย่างถูกต้องตรงนี้ทำคนในสมัยเพรงมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขดีกว่าคนในนี้อื้อซ่า แต่ก็เป็นเรื่องน่าที่คนในสมัยก่อนนั้นไม่ได้มีความรู้และได้เรียนรู้ข่าวสารมาตงค์สาระได้มาอย่างง่ายดายเหมือนพร้อมกับคนในปัจจุบัน ทั้งๆที่ในยุคนี้งานเสพสื่อหาข้อมูลนั้นง่ายแสนง่ายทั้งๆที่ทำนองอยู่แค่บน อย่างไรก็ตามกลับมีการใช้ชีวิตที่ดีแค่คนในยุคก่อนที่ไม่มีการสารดี และเปล่ามีเทคโนโลยีด้วยมาช่วยให้ความรู้เลย บางคนแทบจะอ่านคัมภีร์ไม่ออกด้วยอย่างไรก็ตามเค้าก็สามารถใช้ชีวิตได้ทำนองดีพร้อมด้วยมีคุณทิวภาพมากกว่าคนในยุคนี้มากจริงๆ นี้จึงเป็นเรื่องน่าได้คิดแห่งคนในสมัยเป็นโรค กรดไหลย้อน
กันเพราะโรคตรงนี้เป็นโรคของคนรีบไม่ใส่ใจดูแลตัวเองให้ดี เนื่องจาก ในยุคนี้คนไม่นิยมทานข้าวเช้า ทั้งๆที่เป็นมื้อหลักข้าวของวันแต่จะเกี่ยวเอามื้อเพรางายพร้อมด้วยมื้อวันเอาไว้เพื่อกันแต่จะกาแฟแทนเช้า ซึ่งกาแฟนั้นเป็นสิ่งที่ส่งผลชั่วช้าแด่กระเพาะที่ว่างอาหารเป็นอย่างอื้อซ่า แล้วปฤษฎางค์ตื่นร่างกายของเรานั้นท้องจะว่างมากไม่สามารถหรือซึมซับคาเฟอีนจำนวนมากเอาไว้ได้อย่างแน่หลับไหล สมัยนิยมทำให้ข้ากาแฟเป็นหลักกับขนมปังที่มีแม่น้ำลำคลองตาลอุจทำให้กายไม่ได้รับสสารที่พอเพื่อมื้อเช้าที่จำเป็น แต่กลับไปทำร้ายด้วยกาแฟและตาลแทนของกินดี จึงทำมอบกลายเป็นโรค กรดไหลย้อน
Dilber MC Theme by HarzeM