ในอดีตกัน ลูกโป่ง
ลูกโป่ง
ช่วงนี้สถาบันอุดมศึกษามากมายพากันมีงานพิธีรับปริญญาเยอะมากๆ เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลรับปริญญาเลยก็ว่าได้ นอกเหนือจากบัณฑิตที่ตื่นเต้นกับงานพิธีรับปริญญาของตัวเองแล้วคนที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันนั่นก็คือเหล่าบรรดาผองเพื่อนของผู้สำเร็จการศึกษานั่นเอง ไม่ว่าจะหาชุดสวยงามตั้งเนื้อตัวตัวไปงานหรือแม้กระทั่งของขวัญที่จะให้บัณฑิตก็ตาม ก็ของขวัญมีมากหลายประเภททั้งแบบจัดเตรียมมาเองหรือที่จัดจำหน่ายหน้างานพิธีเรียกว่าเลือกสรรกันไม่ถูกเลยเชียวทั้งราคาถูกและสนนราคาแพงคละเคล้ากันไปสวยๆทั้งนั้น แต่ในนาทีนี้ของให้กิ๊บเก๋ที่เป็นที่นิยมสุดๆ เรียกได้ว่าขายกันแทบจะทุกร้านเลยก็ว่าได้คงหนีไม่พ้น ' ลูกโป่ง
ยาง ทำมาจากยาง น้ำยาง เป็นแบบออริจินัลเดิมเลยทีเดียว ใช้การเป่าลมหรืออัดแก๊สเข้าไปเพื่อให้ลอยตัวได้ ถ้าแบบเป่าลมด้วยปากมักจะไม่รุนแรง ซื้อได้จากการขายเป็นถุงๆให้เด็กๆซื้อไปเป่าลมด้วยปากกันเอาเอง แต่ถ้าว่าเป็นแบบสำเร็จรูปจำนวนมากมักจะลอยในอากาศได้ โดยใช้การอัดแก๊สเข้าไป สามารถอัดแก๊สได้ 2 ประเภทคือ ไฮโดรเจนและฮีเลียม ถ้าไฮโดรเจนจะค่อนข้างจะอันตราย เนื่องจากว่าเป็นก๊าซไวไฟ สามารถติดไฟและลามเป็นเชื้อเพลิงได้ง่าย ก่อให้เกิดภัยได้ และยังสามารถซึมออกจากผิวยางได้ด้วย แต่จะมีสนนราคาไม่แพงมาก ลูกโป่ง
ส่วนฮีเลียมนั้นจะปลอดภัยกว่าเนื่องจากเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่ไวไฟ แต่มีราคาค่อนข้างจะแพง พวกพ่อค้าผู้ขายจึงนิยมไฮโดรเจนมากกว่าเพื่อประหยัดต้นทุน สมัยปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกำหนดให้เจ้าบอลลูนอัดแก๊สไฮโดรเจนกลายเป็นของซื้อของขายที่ควบคุมฉลาก ผู้จำหน่ายต้องติดคำเตือนเกี่ยวกับการระแวดระวังเรื่องประกายไฟและความร้อน เพื่อปกป้องรักษาการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กๆที่มาซื้อไปเล่นเนื่องจากเด็กๆรวมถึงผู้ใหญ่บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการที่มันลอยได้นั้นเกิดจากการใช้ก๊าซประเภทได้ แล้วก๊าซชนิดนี้ส่งผลอย่างไร ดังนั้นจึงการติดป้ายกล่าวเตือนเอาไว้จะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย แต่ถึงยังไงก็ขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณของพ่อค้าแม่ค้า ลูกโป่ง
เข้ามาแพร่สะพัดในสมัยนั้น โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานฉลองเทศกาลต่างๆ ใช้เพื่อประดับประดาตกแต่งสถานที่ รวมถึงใช้ในพิธีการเปิดงาน แขวงป้ายต่างๆ แต่เนื่องมาจากเป็นสินค้านำเข้าทำให้มีราคาค่อนข้างแพง เรียกได้ว่าต้องมีสถานะที่ดีจึงจะสามารถซื้อมาเล่นได้ แต่ทุกวันนี้สามารถหาซื้อได้อย่างง่ายได้ เพราะประเทศไทยมีการผลิตและจำหน่ายกันอย่างแพร่สะพัดไม่ต้องนำเข้าอีกแล้ว เมื่อทุนลด ราคาก็ลด จึงกลายเป็นของเล่นที่วัยเด็กเล็กแทบจะทุกคนเคยผ่านกันมาแล้วทั้งนั้น เนื่องจากหาซื้อง่ายและสนนราคาก็ถูกอีกด้วย ลูกโป่ง
ทุกวันนี้เจ้าของเล่นบอลลูนหลากสีนี้มีหลายประเภทมากๆ มูลค่าก็แตกต่างกันไป รวมถึงความปลอดภัยในการเล่นด้วยก็เช่นกัน ผู้ปกครองที่จะใช้ของเล่นจำพวกนี้มาเป็นเพื่อนเล่นกับบุตรหลานจึงควรที่จะทำความรู้จักมักคุ้นกับประเภทของมันด้วยว่าแต่ละชนิดเหมาะสมกับการเล่นแบบไหน เหมาะกับลูกของท่านหรือไม่ และมีความปลอดภัยหรือเปล่า ลูกโป่ง
1. ลูกโป่ง
อัดแก๊ส' แบบสวยๆงามๆ มีทั้งอันเล็กอันใหญ่ แบบอลังการงานสร้างก็มี ถือได้ว่าเอามาประดับบารมีของผู้สำเร็จการศึกษาเลยก็ว่าได้ แต่ราคานี่แพงใช่เล่น ลูกน้อยๆมูลค่าก็ไม่ได้น้อยตามลูกเลย ไหนๆเห็นว่าช่วงนี้ป๊อปปูล่ากันจัง เราจึงขอเกาะกระแสไปด้วย รู้หรือเปล่าว่าจะลูกบอลลูนสีๆเนี่ย มีสตอรี่ไม่น้อยเลยนะ ใครๆหลายคนต้องเคยแตะต้องกับมันแน่ๆ ยิ่งช่วงสมัยเด็กๆเชื่อว่าเด็กจำนวนมากเพลิดเพลินไปกับของเล่นชิ้นนี้ไม่ใช่น้อย วันนี้เราจะพามาย้อนรอยไปรู้จัก ลูกโป่ง

นั้นถือว่าเป็นของเล่นไฮโซเลยก็ว่าได้ในช่วงระยะเวลาที่ประเทศไทยนำเข้ามาแรกๆ ช่วงยุคสมัยรัชกาลที่5 เป็นช่วงที่ไทยเริ่มมีความสัมพันธ์อันดีงามกับยุโรปจึงเริ่มรับขนมธรรมเนียมรวมถึงมีการค้าขายกันทำให้
ลูกโป่ง ลูกโป่ง
คือวัตถุที่ทำมาจากยาง น้ำยาง ผ้าในล่อน ไม่ก็พอลีคลอโรพรีน นำมาทำเป็นรูปทรงต่างๆที่สามารถยืดหยุ่นและพองตัวโดย โดยใส่แก๊สต่างๆเข้าไป (ถ้าเราเป่าเองด้วยปากก็จะเป็นการบรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปจากลมหายใจออกของเรานั่นเอง) ถูกคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณโดยการทดลองทางวิทยาศาสตร์ คนที่จัดทำได้สำเร็จเป็นคนแรกคือ ไมเคิล ฟาราเดย์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังจากประเทศอังกฤษ แต่ว่าก่อนหน้านี้ กาลิเลโอ ก็เคยทดลองประดิษฐ์เช่นกัน โดยเอากระเพาะหมู หรือกระเพาะปัสสาวะของสิ่งมีชีวิตที่แห้งแล้วมาทำการทดลอง มีวัตถุประสงค์ไว้เพื่อประดับตกแต่งสถานที่และใช้ในเทศกาลต่างๆ สำหรับเด็กๆ ก็จะให้อรรถประโยชน์ในด้านความเพลิดเพลิน และการช่วยสร้างทักษะในการคิดนึกฝัน ขึ้นอยู่กับการนำมาบูรณาการและคำแนะนำของแต่ละครอบครัว จริงๆเมื่อก่อนนี้ ลูกโป่ง