ชมรมเจ้ามือหวย
 
*
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน กรกฎาคม 27, 2025, 12:58:56 pm


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น


ผลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 16 กรกฎาคม 2565 รางวัลที่ 1 620405 รางวัล3ตัวหน้า 159 834 รางวัล3 ตัวท้าย 279 061 รางวัลเลขท้าย 2ตัว 53




เว็บโปรแกรมเจ้ามือหวย



ทำงานแบบมีหลักการ ไม่กล้าจนเกินตัว ไม่กลัวจนเกินเหตุ
ปณิธานของชมรมเจ้ามือหวย
ทางชมรมเจ้ามือหวย หวังแค่เพียงเพื่อนๆ อยู่กันแบบเป็นพี่เป็นน้อง จริงใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ร่วมมือกันในการแบ่งปันข้อมูล มีอะไรดีๆ ก็นำเสนอแก่เพื่อนสมาชิก เพื่อเป็นแนวทางในการทำงาน
หรือระวังป้องกันให้ชาวชมรมได้อยู่ในวงการตลอดไปนานเท่านาน
ขอบคุณจากใจจริง
nongnai


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เซลล์เม็ดเลือดขาว cd4 กับวิถีทางการแพทย์แผนปัจจุบันในงานรักษาพยาบาลคนไข้โรคเอดส์  (อ่าน 642 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
JaneWilkins11Topic starter
ขายของ
Hero Member
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เข้ามาล่าสุด:พฤษภาคม 12, 2017, 07:46:21 pm
กระทู้: 972

จาก

ระบบปฏิบัติการ::
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
บราวเซอร์::
Safari Safari


อีเมล์
« เมื่อ: เมษายน 18, 2017, 10:25:38 pm »

ในช่วงปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์สมัยใหม่ก้าวหน้าไปมาก ทำให้การวินิจฉัยความเจ็บป่วยต่างๆ สามารถทำได้อย่างทันที และช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตหรือพิการของผู้ป่วยได้มากมาย

ค่าโดยทั่วไปแล้วเม็ดเลือดขาวหรือ WBC คือ ประมาณ 5000-10000 cells/cu.mm.ส่วนค่า % Lymp จะไม่เหมือนกัน บางคนสูง บางท่านต่ำ ค่าปกติธรรมดาของ % Lymp อยู่ในช่วงใกล้เคียง 19-48% ดังนั้นจึงต้องดูค่าทั้ง 3 อย่างเเละนำไปใส่สมการสูตรคำนวณออกมา

ในสมัยนี้มียาต้านไวรัสเอดส์จำนวนมาก ออกฤทธิ์หยุดยั้งการแพร่พันธุ์ทำให้เชื้อไวรัสเอดส์ลดน้อยลงได้ และช่วยดูแลไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำร้ายเซลล์เม็ดเลือดขาวพวก T-cell




โดยระดับธรรมดาของ T-cells ในคนที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี จะอยู่ระหว่าง 400 – 1600 ต่อเลือด 1 ลบ.มม. และ T-cells ของผู้หญิงที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี นั้นจะมีความโน้มเอียงที่สูงกว่านิดหน่อย คือ 500 – 1600.

แม้ว่าถ้าคุณไม่มีเชื้อ เอชไอวี แต่ก็ยังมีหลายเหตุที่มีผลต่อปริมาณ T-cells เช่น T-cells ของหญิงจะขึ้นและลงในช่วงที่มีระดู ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดจะทำให้ปริมาณ T-cells ถดถอยได้ หรือในบางขณะที่ร่างกายคลายเครียด T-cells จะลดระดับลงและลดลงได้มากถึง 40% เป็นต้น

ด้วยเหตุนั้นค่าที่เป็น Absolute cd4 จึงเป็นค่าที่นำไปเป็นหลักเกณฑ์การรับยาต้านไวรัส ถ้าค่า cd4 ต่ำกว่า 200 มา ก็ไปพบหมอเพื่อขอทานยาต้านไวรัสได้เลย อย่างไรก็ดีถ้ายังสูงมากกว่า 200 ก็อย่าเพิ่งรับประทานยาต้าน ให้เยียวยารักษาตามอาการเเทรกซ้อนด้วยยาเฉพาะโรคอื่นๆ ไปก่อนครับผม ซึ่งยาต้านไวรัสเอดส์หรือบางท่านเรียกสั้นๆ ว่า
ยาต้าน
 ศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า
เออาร์วี
 (ARV) ย่อมาจาก antiretroviral cd4

แต่ถ้าบอกถึงชื่อย่อ cd4 อาจจะไม่รู้ว่าคืออะไร ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ครับผมว่า cd4 บางคราวถูกเรียกว่า T-cells หรือ T-helper cells เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งจัดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส ซึ่งเจ้าเซล์เม็ดเลือดชนิดนี้มีจุดสำคัญต่อการวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวี อีกด้วยเพราะเป็นเซลล์ที่เชี้อเอชไอวีเข้าไปจู่โจมทำลาย

ยาต้านไวรัสเอดส์เป็นส่วนใหญ่ใช้ได้ผลดี แต่ก็ยังอาจพบปัญหาของการใช้ยาบางชนิด ได้แก่ อุปสรรคจากผลข้างเคียงของยา ตัว

เซลล์ตัวนี้มีความสำคัญตรงที่ทำภาระหน้าที่เป็นเหมือนตัวกำกับระบบภูมิคุ้มกันทั้งมวล พอเซลล์นี้ถูกทำลายไประบบภูมิต้านทานก็ทำงานเพี้ยน ทำให้ไม่สามารถป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคแตกต่างๆ ได้ เมื่อร่างกายติดเชื้อไวรัสเหล่านี้เข้าพร้อมกันๆ กันก็จะเกิดเป็นโรคเอดส์ผลที่สุด การตรวจหาจำนวนของ T-cells จึงเป็นตัวช่วยบ่งชี้ว่าระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายยังทำงานดีอยู่หรือ และเชื้อเอชไอวีทำให้ระบบภูมิต้านทานแย่ไปจนถึงเวลาที่ต้องรับยาต้านไวรัสหรือยัง

ธรรมดาร่างกายจะผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวไม่กี่ล้านเซลล์ แต่เจ้าไวรัสเอชไอวี สามารถแบ่งตัวได้มากถึงวันละหมื่นล้านตัว นับว่าเป็นเลขที่เหลื่อมล้ำกันอย่างชัดเจนจนน่ากลัวเลยใช่มั้ยขอรับ

ซึ่งเซลล์เม็ดเลือดขาวเองก็เป็นพารามิเตอร์แบบอย่างที่แพทย์ใช้ในการวินิจฉัยโรคในช่วงต้น

ผู้ที่ติดเชื้อที่ระดับเซลล์เม็ดเลือดขาวร่อยหรออย่างไวในช่วงติดเชื้อใหม่และไม่สามารถเยียวยารักษาระดับเซลล์เม็ดเลือดขาวให้อยู่ตัวได้ มีความโน้มเอียงที่จะมีอาการของโรคเอดส์เร็วกว่าปกติครับ เมื่อใดที่การตรวจวัดระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวอยู่ที่ 200-500 นั่นแสดงว่าระดับภูมิต้านทานของร่างกายได้ถูกทำร้ายแล้ว

ยุคปัจจุบันเราใช้จำนวนรวมเซลล์ cd4-T lymphocyte และปริมาณเชื้อ viral load หรือ HIV RNA มาเป็นตัวบอกระยะและพยากรณ์ของโรค ตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวT lymphocyte มากกว่า 500 cells/mm3 จะมีโอกาสเสี่ยงต่ำในการเกิดโรคเอดส์และโรคแทรกซ้อนอื่นใน 3 ปี การเจาะตรวจ T-cells ควรจะเจาะทุก 3-6 เดือนขึ้นกับสภาพของผู้เจ็บป่วย ผู้ที่เจาะได้เซลล์ผลรวมน้อยก็ต้องเจาะถี่ขึ้น ส่วนผู้ที่มีเซลล์มากก็เจาะทุก 6 เดือน

การลดลงอย่างยิ่งของเซลล์เม็ดเลือดขาวจะเป็นวี่แววของอาการที่จะเกิดขึ้นก่อน 1 ปี ก่อนที่จะวินิจฉัยว่าคนป่วยเป็นโรคเอดส์อย่างสมบูรณ์ การปรนนิบัติร่างกายที่ดีจึงควรเข้ารับการตรวจวัดระดับเซลล์เม็ดเลือดขาว (cd4) อย่างบ่อยๆ เหตุเพราะระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวมีความสำคัญอย่างมากที่จะใช้เป็นแนวทางในการป้องกัน หรือการให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้ป่วยเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนบางชนิด เช่น ระดับ T-cells น้อยกว่า 200 แพทย์จะให้การดูแลป้องกันโรคปอดอักเสบ ฯลฯ

ต่อนี้ไปเรามาดูกันว่านายแพทย์มีวิธีการวินิจจัยและจ่ายยาต้านไวรัสให้คนป่วย โดยพิจารณาจากปริมาณเม็ดเลือดขาวหรือ cd4 ไง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2009, Simple Machines

Valid XHTML 1.0! Valid CSS! Dilber MC Theme by HarzeM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.282 วินาที กับ 23 คำสั่ง