ชมรมเจ้ามือหวย

 เนื่องมาจาก</span><span style=
line-height: 1.42857;
>  iptv box
   ได้ด้วย และสมัยนี้ก็มีหลายคน ที่มีเครื่องแบบนี้อยู่ในมือ แต่ยังหาผู้ให้บริการไม่ได้ เนื่องมาจากจะต้องมี เฟิร์มแวร์ที่เขียนมาเพื่อรองรับกับการใช้งาน  ซึ่งข้อดีของ OS LINUX คือ เป็นระบบปิดซึ่งคนที่จะเขียนโปรแกรมใช้งานได้จะต้องมี Source ของ ซีพียูที่จะใช้งาน เพื่อทำการเขียนให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงจะทำให้ ระบบ Linux มีความเสถียร และ ทางผู้ให้บริการก็ยินดีที่จะใช้งาน OS นี้มากกว่าเพราะถือว่ามีความปลอดภัยกว่าเพราะถูกซ่อน URLของผู้ให้บริการไว้ และไม่มีอาการ ค้างของ OS ให้เห็นสังเกตจากการทดสอบใช้งาน  คือข้อเสีย ทั้งในแบบที่ 1 และ 2 หากต้องการจะเปลี่ยนผู้ให้บริการช่วงนี้อาจจะยังไม่มีเนื่องจากจะต้องดูว่า เครื่องนั้น ทำได้รองรับกับเฟิร์มแวร์ของผู้ให้บริการหรือไม่ เปลี่ยนได้แต่เครื่องแต่ต้องรองรับเฟิร์มแวร์ด้วย ความสามารถในการเล่นไฟล์มัลติมีเดียจะดีกว่าเครื่อง Andriod แต่ก็ไม่สมบูรณ์ แต่หากต้องการใช้งานในหมวดนี้เป็นได้ต้องหันไปใช้งาน เครื่อง HD player จะดีกว่า เพราะ OS LINUX ไม่มีโปรแกรมที่ถูกเขียนมาให้สามารถ เล่นอินเทอร์เน็ตได้ เช่น เข้า Google ซึ่งจะแหวกแนวจากระบบ Andriod  ที่มี Appต่างๆ ให้ลงตรึม เนื่องจากเป็นระบบเปิด  ข้อสังเกต หรือข้อโต้แย้ง คือหาก OS เสถียร และเปลี่ยนผู้ให้บริการได้ แต่เครื่องอาจจะรองรับ เฟิร์มแวร์ของผู้ให้บริการ เล่นเน็ตไม่ได้ ซึ่งในการใช้งานจริงๆ ไม่สะดวกเลยทั้ง OS LINUX และ Andriod ในการที่จะนำมาใช้งานกับอินเทอร์เน็ต หากต้องการใช้งานจริงๆ อาจนำโน๊ตบุคหรือคอมพิวเตอร์มาต่อกับ ทีวีจะสะดวกที่สุด ซึ่งเครื่องชนิดที่ดูกับจานดาวเทียมมีข้อดีคือ เวลาเซิร์ฟเวอร์มีปัญหาไม่ก็เน็ตล่ม ก็จะได้ดูจานดาวเทียมแทน สำหรับ  iptv box

(http://media-cache-ak0.pinimg.com/736x/d2/0d/f2/d20df21c91f1c62288aa4338a06401b0.jpg)
   กันในตอนนี้ คงจะต้องแยกกัน ติดตามระบบปฏิบัติการ (OS) โดยแยกได้ 2 ประเภท คือระบบ OS Andriod และระบบ OS LINUX ซึ่งแบบ LINUX คือOS ที่ใช้ในเครื่องรับจานดาวเทียมทั่วไปที่รู้จักกันดีนั่นล่ะ และ ใน IPTV ก็ใช่ เพียงแต่ถูกเขียนเฟิร์มแวร์ออกมาให้มีหน้าตาและการใช้งานที่มีความแตกต่างกัน โดย Linux มีขายกันอยู่ 2แบบ คือแบบ IPTV ที่ไม่สามารถใช้กับจานดาวเทียม หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ต่อดูกับจานดาวเทียมไม่ได้ แต่ทำมาเพื่อให้รับชม IPTV ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ยอมรับว่าเป็นแบบที่นิยมใช้กันแบบในปัจจุบันอย่างมาก ส่วนแบบที่ 2 คือ IPTV แบบลูกผสม เป็นเครื่องรับจานดาวเทียมชนิดที่สามารถใช้งาน iptv box (http://iptv1668.com) iptv box

   ที่เป็นระบบOS Andriod ส่วนมากจะเรียกกันว่าแอนดรอย ทีวี หรือTV BOX จะมี OS ที่แยกอยู่ 2เวอร์ชั่นคือ เวอร์ชั่น 2.3 และ 4.0 ซึ่งข้อดีของ แอนดรอยด์คือ เป็นระบบเปิดที่สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมชนิดต่างๆ มาลงได้ ซึ่งเราจะเรียกกันว่า แอพ หรือ แอพพริเคชั่น อย่างIPTV หรือ Thai radio หรือ ยูทูป ,google หรือ  App ดู ละคร ดูทีวีย้อน หลัง หรือ ข่าวคราว   และเกมส์ต่างๆ   ตัวAppจะมี นามสกุลลงท้ายคือ .APK สำหรับ แอพ IPTV.APK   ทาง server จะลงให้เท่านั้นจะไม่มีดาวน์โหลดได้จากทั่วไป และจะไม่มีการแจกจ่าย ซึ่งหากไม่มี ผู้ให้บริการเหรอถูกทิ้งแล้ว ก็จะไม่สามารถใช้งานเครื่องได้ ยกเว้นเอาไว้สำหรับต่ออินเทอร์เน็ต เท่านั้น ปัจจุบันมีผู้ให้บริการบางราย รับลงแอพให้ แต่ยังคงน้อยรายอยู่เนื่องจาก ต้องการขายเครื่องของเขาเองมากกว่าที่จะไปลง Appให้กับสมาชิกคนอื่นๆ  เนื่องจากไม่ได้กำไรจากการขายเครื่อง ข้อดีข้อด้อย ของแต่ละระบบ OS ไม่เหมือนกัน หากจะซื้อเครื่อง  iptv box

   มารับชม ก็ต้องลองดูความเหมาะสมเหล่านี้เป็นสำคัญคือ ระบบ OS LINUX เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก และต้องการความสะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งาน ไม่ต้องการ ต่อเล่นอินเตอร์เน็ตจากเครื่องIPTV ซึ่งเหมาะกับการนำไปรับชมอย่างเดียว  เป็นการรับชมแบบง่ายๆ สะดวกๆ   ส่วนระบ iptv box
   คือกล่องสัญญาณที่มีการแพร่ภาพโดยใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นหลักหากระบบอินเทอร์เน็ตของผู้ให้ บริการ หรือสมาชิก ล่มหรือใช้งานไม่ได้ก็จะไม่สามารถรับชมได้ อินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการ จักต้องมี Spped UPload ที่สูงมาก เพื่อที่จะทำการส่งภาพและเสียงผ่านทางเครือข่ายไปให้สมาชิก และเพื่อสมาชิกที่มีสปีด ดาวน์โหลดขั้นต่ำเพียง 5M ก็เพียงพอที่จะสามารถรับชมสัญญาณภาพและการถ่ายทอดต่างๆ ได้อย่างฉลุย อินเทอร์เน็ตที่ใช้ไม่ได้กับการเปิดรับชมคือ แอร์การ์ดและ wifi สาธารณะเพราะมี speed Download ที่ไม่คงที่ หมายรวมอินเทอร์เน็ตรวมของหอพัก ซึ่งจะมีการแชร์สปีดเยอะมาก อาจทำให้การดาวน์โหลดช้า หรือเปิดดูไม่ได้ เพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตต่ำ</span>หากแยกชนิด iptv box