
หัวข้อ: งานมีมโนทัศน์ประดิษฐ์เกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศอย่างไร คำถามหลายๆอย่างอาจทำให้คุณมีความคิดเ
เริ่มหัวข้อโดย: JoshuaPowell25 ที่ พฤษภาคม 09, 2017, 02:43:56 pm
โรงพยาบาลครอมเวลล์ไว้ระยะเที่ยงตรงพวกเขาจับผมนั่งตั่งพร้อมทั้งใช้วัตถุคีบเปลือกนอกตาผมให้เปิดไว้เหมือนหนังเรื่อง a Clockwork Orange ก่อนจะใช้แสงเลเซอร์จี้ไปที่กระจกกระจกส่องตาพวกเขาต้องใช้เลเซอร์ปรับแต่งจนกว่ากระจกตาจะมีรูปแบบที่สมสมเสียก่อนจากนั้นก็ใช้ผ้าพันแผลปิดตาของผมเอาไว้ ผ่าตัดยุติผมก็นั่งแท็กซี่กลับไปทำงานแต่ผมนั่งลงและหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านแต่ตัวหนังสือลอยไปลอยมาทุกอย่างดูเบลอไปหมดตัวอักษรบางตัวดูเหมือนอยู่เคียงมากๆขณะที่บางตัวอยู่ห่างไกลออกไป ผมกระพริบตาถี่ๆ พยายามมองให้ชัดว่าแต่ละตัวตัวอักษรเหล่านั้นก็ยังดูเล็กๆใหญ่ๆอยู่ดีมันเหมือนกับกับผมกำลังมองผ่านผิวน้ำที่กระเพื่อมผมต้องขยับหัวออกเหินห่างเพื่อดูต่างหนังสือขนาดใหญ่และยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อเพ่งตัวหนังสือเล็กๆ ดูไปดูมาก็เริ่มรู้สึกว่าเวียนหัวเหมือนเมาเรือเลยที่เดียวพอเงยคอมองนาฬิกาดูเหมือนระลอกคลื่น ส่วนตัวเลขก็ดูเบลอๆ ผมปรับสายตาให้เห็นนาฬิกาชัดๆไม่ได้เอาซะเลย ผมรู้สึกอยากอ้วกสมองคงได้รับผลกระทบจากการทำเลสิกแน่ๆเลย ผมไม่คิดเลยว่าจะยังมีชีวิตอยู่แบบนี้ ผมน่าจะนอนพักสักนิดและผมคิดว่าจะเอาอย่างไรกับการ เรียนต่อต่างประเทศ
เหมือนกันเข้ามาดูแล้วถามว่า นี่เธอรู้ไหมก้อนกระดาษแปลกๆในตะกร้าขยะผมนี่มันคืออะไรกัน เธอขันร่วนและตอบว่าฝีไม้ลายมือกอร์ดอนไงคะเขาถ่ายเอกสารกระดาษทุกแผ่นบนโต๊ะคุณให้ดูเบลอๆเขาอยากให้คุณเห็นทุกอย่างเหยเกทั้งหมดหลังจากที่คุณกลับมาจากการผ่าตัดไงหล่ะ หน้าปัดนาฬิกาเขาก็ยังไม่เว้นเลยนะค่ะ ฉันบอกเขาแล้วว่าทำแบบนี้มันโหดร้ายไปหน่อยหรือเปล่า แต่เขายืนยันว่าคุณต้องขำแน่ๆเลยว่ากันตามตรงเลยนะครับเขาพูดถูกครับ ความคิดบางอย่างยอดเจ๋งของเพื่อนที่ เรียนต่อต่างประเทศ
ด้วยกันคนนี้เยือนจนต้องนำมาใช้ให้ได้แม้ว่ามันจะโหดร้ายก็ตามวิธีทำให้ทุกคนได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ตอนที่ลูกสาวของผมยังเล็กและเธอนั่งดูทีวีทั้งวันเลยเธอนั่งติดหนึบอยู่ที่หน้าจอเหมือนถูกสะกดจิตนั้นไม่ใช่ที่ผมอยากเห็นเลยจริงๆ ผมเลยอยากให้เธอคิดฝันและวิวัฒน์ความคิดพูดง่ายๆเลยผมอยากให้เธอเล่าเรียนแต่ผมไม่อยากบังคับลูกผมอยากให้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการแต่ผมก็อยากได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเหมือนกันสำหรับผม นี่ดูคล้ายโจทย์ในการทำการโฆษณาของผมเลยทีเดียวจะทำอย่างไรให้ทุกคนได้สิ่งที่ตัวเองอยากอะไรคือหนทางที่สร้างสรรค์เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวลูกสาวผมชอบดูการ์ตูนมาก ผมจึงเที่ยวเสาะหาการ์ตูนที่น่าสนใจและคิดว่าเธอจะชอบ ในที่สุดผมก็เจอการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่สร้างจากบทละครของเชกสเปียร์ทุกเรื่องที่ถูกสร้างโดยบริษัทแอนิเมชั่นหลายแห่งในแถบยุโรปตะวันออก บางเรื่องเป็นภาพลายเส้นสองมิติ บ้างก็เป็นแบบสต็อปโมชั่นสามมิติบทละครที่กินเวลานานหลายชั่วโมงถูกย่อให้เหลือแค่ครึ่งชั่วโมง แต่โครงเรื่องและบทพูดสำคัญๆ ยังคงครบถ้วนนี่แหละครับคือสิ่งที่ผมมองหา เนื้อหาไม่ได้ยืนยาวน่าเบื่อ มันจึงดึงดูดความสนใจของเธอได้ ขอให้เป็นการ์ตูนเถอะ ลูกสาวผมดูได้หมด เธอจึงค่อยๆ ซึมซับผลงานของเชกสเปียร์โดยไม่รู้ตัว เรื่องราวของเสน่หา เกียรติยศ ความสับสนวุ่นวายและการทรยศ ถ่ายทอดด้านเครื่องแต่งกายหรูหราและภาษาอันสละสลวย ครบองค์ประกอบที่จะดึงดูดความสนใจของเด็กตัวน้อยๆได้ ผมเพิ่งมารู้ว่ามันได้ผลเมื่อวันหนึ่งผมเข้าไปในครัวและเจอลูกสาเรียนต่อต่างประเทศ (http://thebest-edu.com/) เรียนต่อต่างประเทศ
ผมเป็นคนสายตาสั้นไม่เบาผมจึงใส่คอนแทกต์เลนส์ตลอดตราบจนกระทั่งได้ฟังข้อความสำคัญการทำเลสิกเมื่อหลายปีก่อนนั่งฟังดูเจ๋งไปเลยคุณจะซ่อมปัญหาสายตาได้และไม่จำเป็นสวมใส่คอนแทกต์เลนส์อีก คุณจะได้ดวงตาที่ทำงานเหมือนดวงตาปกติกลับมาตอนนั้นการทำเลสิกยังเป็นเรื่องใหม่ จึงไม่ทำใครที่ผมรู้จักเคยเข้ารับการผ่าตัดแบบนี้มาก่อนเลย แต่ผมก็ตัดสินใจลองเสี่ยงโอกาสดูหมอบอกกับผมว่านี่เป็นการผ่าตัดเล็กจะใช้ยาชาเฉพาะจุดบริเวณดวงตาเมื่อผ่าตัดเสร็จก็กลับไปทำงานได้เลย ผมนัดหมอที่โรงพยาบาลตอนที่ผม เรียนต่อต่างประเทศ
เล่นตลกโปกฮากับการมองเห็นผมเป็นเด็กนักเรียนที่ไป เรียนต่อต่างประเทศ
ของผมดี แต่นอนหลับก่อนเถอะเดี๋ยวสมองก็เข้าทางเอง ผมขึ้นแท็กซี่กลับบ้านจากนั้นก็ล้มตัวลงบนเตียงเช้าวันต่อมา ผมสะดุ้งตื่นนอนแล้วรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยผมเพ่งดูไปรอบๆห้องและทุกอย่างดูปกติจากนั้นผมแต่งตัวและออกไปเรียนและทำงานตามปกติของผม ผมพิศดูเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะและเห็นว่าทุกอย่างมันสุภาพดี ขนาดตัวอักษรกลับมาบ่อยเหมือนเดิมเลยไม่มีอะไรลอยไปลอยมาอีกแล้วผมนี่รู้สึกโล่งใจคอเลยจริงๆผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอกแต่แล้วผมก็พิจารณาเห็นว่าในถึงขยะเต็มไปด้วยกระดาษที่ถูกเฟ้นทิ้ง ผมหยิบบางแผ่นขึ้นมาดู และตัวอีกษรเรื่องลอยไปลอยมาอีกครั้ง บางตัวก็ใหญ่บางตัวก็เล็กบางตัวก็เบลอ ผมจึงเรียกเพื่อนที่ เรียนต่อต่างประเทศ