
หัวข้อ: จุดสำคัญของ เรือกู้ภัย ครั้นเมื่อเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ที่มีขึ้นกับตัวผมครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JoshuaPowell25 ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2017, 04:21:00 pm
ถ้าหากเล่ากันถึงเรื่องของเหตุการณ์ภัยธรรมชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วม วาตะภัย ในเมืองไทยนั้น ล้วนเกิดจากฝีมือของคนอย่างเราทั้งสิ้น แต่เหตุการณ์ที่จะเกิดได้บ่อยครั้งที่สุด พร้อมกับสร้างความทุกข์ร้อนได้บ่อยครั้งมากก็คงหลบหนีไม่พ้นเรื่องของอุทกภัย หรือ น้ำท่วมที่มีขึ้นตามต่างจังหวัด หรือแม้แต่ในกรุงเทพมหานคร ก็เคยปรากฏมาแล้ว และขณะมีเหตุการณ์เกี่ยวกับน้ำท่วมสิ่งที่จะช่วยอำนวยความสบาย และช่วยเหลือใครต่อใครได้ นั้นก็หนีไม่พ้น เรือกู้ภัย
ที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ช่วยเหลือผู้พบภัยอันตรายรวมไปถึงช่วยในเรื่องของการส่งข้าวสารของแห้ง ให้กับทางผู้เจอภัยอีกด้วย หากสำหรับตัวข้าพเจ้าเอง จะมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องราวน้ำท่วม ที่เคยพบเจอมากับตนเอง และได้รับการช่วยเหลือต่าง ๆ รวมไปถึง การแสดงถึงน้ำใจของคนไทยด้วยกันเองด้วยครับ เพราะผมต้องบอกก่อนเลยว่า ถ้าหากวันนั้น ผมไม่ได้เพื่อน ๆ และทีมกู้ภัยมาช่วยป่านนี้ครอบครัวผมคงแย่ไปแล้วครับ เรือกู้ภัย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่ กรุงเทพฯ น้ำท่วม เพื่อนๆ คงจะกันได้นะครับ เมื่อราวปี 2554 ได้ คือ ณ ตอนแรกที่น้ำจะล้นเนี่ย เราก็ได้ยินข้อมูลมาบ้างแล้ว ว่ามีน้ำท่วมจากทางตอนเหนือ ไหลมาสู่ กทม โดยก่อนจะมาถึงบ้านผมนั้น ทางตอนเหนือก็ได้มีอุทกภัยมาก่อนแล้ว ผมดูจากโทรทัศน์ ก็เห็นพี่น้องช่วยเหลือกันมาก ทั้งเอา เรือกู้ภัย
เอาไว้บ้างแล้ว ที่นี้ก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้วครับเพราะในใจผมเองเนี่ย มองว่า มันน่าจะมีโอกาสท่วม และพอครู่หนึ่ง น้ำมันเริ่มท่วมจริง ๆ โดยมาจากท่อต่าง ๆ ซึมขึ้นมาเรื่อย ๆ จนคนเริ่มอพยพหนีไปหมดแล้ว หมู่บ้านที่ผมอยู่นี้ เงียบเหงากันเลยทีเดียว ผมกับทางครอบครัว ก็ยังมีหวังว่ามันจะลด ก็หาเครื่องปั๊มน้ำ มาดูดน้ำจากบ้าน และก็ทำกระสอบทรายเอามากันน้ำไว้ เพื่อระแวดระวังไม่ให้น้ำเข้าบ้าน แต่ท้ายที่สุด มันก็เข้าบ้านจนได้ และเราก็ดูดน้ำจากภายในออกข้างนอก เรื่อย ๆ ทั้งวันทั้งคืน โดยการสลับเวรกัน ช่วยกันดูเพื่อไม่ให้น้ำเข้าบ้านเรามากครับ แต่สุดท้าย ก็ไม่ไหวครับ น้ำขึ้นจนถึงต้นขาบนแล้ว และที่พักอาศัยผมเป็นบ้านชั้นเดียว ก็เลยมาปรึกษาหารือกันใหม่ ว่าเราจะเอาไงกันดี เพราะมันเริ่มท่วมขึ้น ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะน้อยลงเลยแม้แต่น้อย และอีกอย่าง การขับถ่ายอะไรก็เริ่มลำบากมากขึ้น คุณพ่อเลยตัดสินใจ ทิ้งบ้านไว้ และให้พวกเราออกไป และหนีไปอยู่ นอกเมืองกันครับ แต่ตัวปัญหาก็คือ น้ำมันท่วมสูง เรือกู้ภัย
ไปคอยช่วยขนส่งให้กับผู้คนที่ประสบเหตุโดยในข่าว ก็มีบอกอยู่แล้ว ว่าน้ำจะไหลลงมา จนถึง กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนตัวผม ไม่ได้ให้ความสนใจอะไร เพราะคิดว่า มันค่อนข้างไกลตัว และอีกอย่าง กทม.แทบไม่เคยมีเหตุการณ์น้ำท่วมสาหัสสากรรจ์อะไร เต็มที่ก็น้ำท่วมขังจากฝนตกปกติธรรมดาเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยและไม่คิดว่าจะมีวันท่วมมาถึงบ้านเราด้วย สักพักก็มีข่าวว่าน้ำมาถึงอยุธยา ทีนี้ผู้คนก็เริ่มแตกตื่น โดยผมบอกก่อนว่า บ้านผมอยู่แถว ๆ ดอนเมืองนะครับผมณ ตอนนั้น ผมก็เล่าเรียนอยู่ ม.รังสิต ก็เห็นมีประกาศมี ให้ระดมคนไปช่วยเหลือกันทำฝายกั้นน้ำ บรรจุกระสอบทรายกัน เพื่อคุ้มกันไม่ให้น้ำไหลผ่าน โดยตัวข้าพเจ้าเอง ก็ได้ไปช่วยเหลือและเริ่มเห็นน้ำว่า มีน้ำซึมออกมาตามท่อ ซึ่งในแรกเริ่ม ก็ไม่ได้ขึ้นเร็วอะไรเลย แต่มันขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีลด ตัวผมเองก็เริ่มใจไม่ดีละ มาคุยกับที่บ้าน พวกคนในครอบครัว ก็ปรึกษากันว่า จะซื้อเรือกันดีไหม แบบที่มันเป็นคล้ายๆ เรือกู้ภัย (http://ultramarineboats.com/) เรือกู้ภัย
มาไว้ก่อนไหม เผื่อเอาไว้พาตายายออกไป ถ้ามันท่วมหนัก พ่อก็บอกว่า เดี๋ยวมันก็ลด คุณพ่อท่านบอกว่า อาศัยที่ดอนเมืองมา 20 กว่าปี ไม่เคยเจอท่วมสูงเกินหัวเข่าเลย เต็มทีก็เกินหัวเข่า และอีกอย่าง ดอนเมืองเป็นพื้นที่สูง น้ำมาไม่ถึงหรอก ถ้าไม่งั้น สนามบิน คงเจ๊งด้วยแล้ว ส่วนตัวผมก็ยังคงออกไปซื้อของตามปกติธรรมดาแต่ก็เริ่มเห็นบางบ้านมีการเตรียม เรือกู้ภัย
เผื่อมันท่วมมาถึงที่อยู่อาศัยเราจริง จะได้มีไว้ขนถ่ายคนในบ้าน และต้องบอกก่อนว่า บ้านผม มีคุณตา คุณยาย ซึ่งแก่และแกเป็นคนที่หวงบ้านมาก แต่ในเวลานั้น น้ำยังมาไม่ถึงครับ เราได้แต่หารือกัน ว่าถ้าสมมุติมันมาถึงบ้านเราจริง เราจะเอายังไงกัน แต่ทางคุณพ่อของผมเอง ก็ไม่ฟังและบอกว่า ถึงมันมา เดี๋ยวมันก็ลด ผมก็เลยไม่อยากเถียงกับเขาครับ ก็รอดูต่อไป สักพักมีข่าวคราวว่า ฝายกั้นตรงจุดแถวม.รังสิต พัง น้ำทะลักเข้ามา ท่วมแถวแถวนั้นแล้ว ซึ่งบ้านของผม ก็อยู่ไม่ได้ไกลจาก ม.รังสิตมากนัก ก็เลยเริ่มใจเต้นขึ้นมา ณ ตอนนั้น ยังคุยเล่น ๆ กับเพื่อนพ้องอยู่เลยครับ ว่าเห้ย บ้านน้ำท่วมยัง เพื่อนบอกว่า เริ่มมีซึม ๆ ขึ้นมาจากท่อบ้างแล้ว ไอบ้านผมก็เริ่มมีมาบ้าง แต่ไม่ได้เยอะอะไรมาก ตอนต้น ก็เลยบอกพ่อว่ามันเริ่มมาแล้วนะคุณพ่อจะไปหา เรือกู้ภัย