ชมรมเจ้ามือหวย

เป็นที่รู้กันว่าในเห็ดหลายชนิดมีส่วนประกอบของสารแซคคาไรด์เดี่ยวๆ และแซคคาไรด์ที่รวมตัวต่อกันเป็นสายโซ่ยาวที่ตำแหน่ง 1,3 และ 1,6 เช่น เบต้า ดี กลูแคน (beta-d-glucans) ได้มีการทดลองทางการแพทย์ในประเทศจีน และ ญี่ปุ่น ในโรงพยาบาลหลายแห่งค้นพบ ว่าการให้คนไข้ที่เป็นเนื้องอกปอดกินถั่งเช่า 6 กรัม/วัน ควบคู่กับการทำ คีโม ผลปรากฏว่าขนาดของเนื้องอกลดลง 46% ในคนไข้ 50 คนที่ทดลอง (Wang et al 2001) การทดลองให้ผู้ป่วยที่เป็นเนื้องอกชนิดอื่นๆ ทานถั่งเช่า 6 ก./วัน เป็นเวลา 2 เดือน ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้น เมื่อเช็คเม็ดเลือดขาวพบว่าคนไข้มีเม็ดเลือดขาวมากขึ้น และขนาดของเนื้องอกเล็กลงประมาณกึ่งหนึ่งของคนไข้ที่ทดลอง (Zhou et al 1998)

ในความเป็นจริงแล้ว ความรู้ที่ว่าถั่งเช่า มีความสามารถในการต้านทานโรคมะเร็งนั้นเป็นที่รู้กันในประเทศทางตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เพราะมีการทดสอบ กันอย่างแพร่หลายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันอันเป็นทางเลือกในการรักษา เพราะมีสาร โพลีแซคคาไรด์ ภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นนี้ สามารถลดความรุนแรง พร้อมด้วย ลดเวลาที่เกิดผลข้างเคียงอันเกิดจากการรักษาทางเคมีหรือฉายรังสี (Wang et al 2001) (Xu et al 1988)

นอกจากความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันจากสารโพลีแซคคาไรด์ แล้ว ยังมีการออกฤทธิ์ในการต้านมะเร็งจากสารคอร์ไดซิพิน (3’deoxyadenosine) ซึ่งโมเลกุลของสารนี้เกือบจะเหมือนกับสสารอะดีโนซีน (adenosine) ซึ่งเป็นองค์ประกอบของ ดีเอ็นเอ (DNA) แต่ต่างกันที่คอร์ไดซิพินไม่มีอะตอมของออกซิเจนบนตำแหน่งที่ 3 ของน้ำตาลไรโบส การขาดออกซิเจนตรงจุดนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากคอร์ไดซิพิน เข้าแทนที่ อะดีโนซีนในดีเอ็นเอ การขาดออกซิเจนไปหนึ่งตัว จะทำให้การจำลองดีเอ็นเอสะดุด ลง การแยกเซลล์จึงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ การแยกเซลล์หากเกิดในเซลล์ปกติ เซลล์ปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถที่จะซ่อมแซมปัญหานี้ได้ แต่มิใช่เซลล์มะเร็ง เนื่องจากเซลล์มะเร็งไม่มีประสิทธิภาพในด้านนี้

กลไกการออกฤทธิ์ของสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides)

ถั่งเช่าช่วยข้อจำกัดของการบำบัดทางเคมี/ฉายแสง ได้อย่างไร

หากผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันที่ดี จะใช้ปริมาณสารเคมีเ

ผลรับที่สำคัญที่สุดของการทำการรักษามะเร็งโดยใช้สารเคมีก็คือการทำลายระบบภูมิคุ้มกันของคนไข้นั้นเอง ในความเป็นจริงแล้วผู้ป่วยตายจากการรักษาโดยสารเคมีมากกว่า จากโรคมะเร็ง ผู้ป่วยที่รักษาโดยสารเคมีจะได้รับการตรวจเช็คเม็ดเลือดขาว ในช่วงที่ทำการรักษาโดยใช้สารเคมี จำนวนสารเคมีที่จะให้ผู้ป่วย พร้อมกับโปรแกรมการให้สารเคมีจะถูกปรับเพื่อให้ผู้ป่วย มีโอกาสที่จะสร้างภูมิคุ้มกันเพียงพอ เพื่อที่จะรับสารเคมีที่เป็นพิษในครั้งถัดไปได้อีก กับหวังว่าสารเคมีจะฆ่าเซลล์มะเร็งได้เร็วกว่าเซลล์ปกติ โดยปกติเม็ดเลือดขาวจะมีความอ่อนแอต่อสารเคมีที่ใช้รักษาโรคมะเร็งโดยมันจะตายเร็วกว่าเซลล์อื่นๆที่เป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อที่ยังเป็นปกติอยู่ ซึ่งเป็นที่มาของภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ลดลง เกี่ยว เม็ดเลือดขาวเกี่ยวพันโดยตรงกับการสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

กลไกการทำงานของสสารคอร์ไดซิพิน (Cordycepin)

คุณสมบัติที่เด่นของถั่งเช่า (http://cordythai.com/)ซึ่งเป็นที่ทราบกันกันมานานแล้วในประเทศจีนก็คือ การเป็นยาเยียวยารักษามะเร็ง ซึ่งกำลังเป็นที่น่าตื่นเต้นในวงการแพทย์ทางเลือกในโลกตะวันตกในด้านความสามารถในการการเป็นยารักษาเนื้อร้ายชนิดใหม่ ประกอบไปด้วยสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) และ สารคอร์ไดซิพิน (Cordycepin) ซึ่งสสารตัวหลังนี้พบในถั่งเช่าเท่านั้น ในปัจจุบันมีแพทย์จากทั่วโลกที่แนะนำให้คนป่วยรับประทานควบคู่กับการรักษาแผนปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการใช้เคมีบำบัด (ทำคีโม) หรือรับฉายรังสี หรือทางเลือกในการรักษาเนื้องอกโดยวิธีอื่นๆ จะสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งอย่างเห็นได้ชัด ในบางกรณีนอกจากทำให้เนื้องอกหายไปด้วยแล้ว ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายของผู้ป่วยทนทางขึ้น สามารถทนต่อความเครียดจากการทำคีโม หรือฉายรังสีได้ด้วย (Nakamura et al 2003) ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการทานจัดเป็นภูมิคุ้มกันที่สองซึ่งทำให้ร่างกายมนุษย์สามารถ เรียนรู้ จดจำ กำจัด ป้องกัน จุดที่เป็นมะเร็งทั่วร่างกายได้ (Koh et al 2002)ถั่งเช่า

แบคทีเรียส่วนใหญ่ และไวรัสทุกชนิด รวมทั้งไวรัสเอดส์ (HIV) ก็ไม่สามารถซ่อมแซมดีเอ็นเอ ได้เช่นเดียวกับเซลล์มะเร็ง ดังนั้นความสามารถในการขัดขวางการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบางชนิด และไวรัส โดยคอร์ไดซิพิน ก็มีกลไกการออกฤทธิ์เช่นเดียวกับที่เกิดกับเซลล์เนื้อร้ายนั่นเอง (Holliday 2004b) (Liu and Zheng, 1993)

การป้องกันผลกระทบ จากการบำบัดทางเคมีหรือฉายรังสี