
หัวข้อ: กรดไหลย้อนโรคยอดเป็นที่นิยมของคนยุคใหม่ที่มีสูงและไม่สนใจในสุขภาพในตัวเองเท่ากับการโหมงานหนักเพ
เริ่มหัวข้อโดย: JoshuaPowell25 ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2017, 08:58:26 pm
ทำไมคนในสมัยนี้ถึงทำงานฉลองหนักกัน คำถามของผู้ใหญ่ที่มีแก่ลูกหลานในตอนนี้ เนื่องจากในสายตาของคนยุคเก่าที่ทุกอย่างมิโหมแรงรีบและคนไม่แข่งขันกันขนาดนี้และที่สำคัญคือคนไม่ได้ขึดติดกับวัตถุการกำหนดขนาดนี้นั้น ในยุคนั้นกล้าจะหมายถึงยุคที่มีสงครามภัตลำบากหมากมีราคาก็จริง แต่คนในยุคนั้นก็ยังคงชำระคืนชีวิตได้ดีและมีบรรทัดในชดใช้ชีวิตที่ดีมากกว่าคนในยุคนี้เป็นวิธีไม่เบา ยกตัวทำนองง่ายๆเช่น คนในยุคนี้เป็น กรดไหลย้อน
ซึ่งปัจจัยใช้อย่างถูกต้องตรงนี้ทำสละคนในสมัยมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขทิวภาพที่ดีกว่าคนในสมัย แต่ก็เป็นเรื่องน่าที่คนในสมัยก่อนนั้นไม่ได้มีความรู้และได้เรียนเข้าใจสสารสาระได้มาอย่างง่ายดายเหมือนคนในปัจจุบัน ทั้งๆที่ในยุคนี้การเสพพาหะใช่ไหมหาข้อเค้ามูลนั้นง่ายแสนง่ายทั้งๆที่ทุกวิธีอยู่แค่บนฝ่าเท้าขา แต่กลับมีการใช้ชีวิตที่ไม่ดีคนในยุคก่อนที่ไม่มีการพาหะสารดี และมิมีเทคโนโลยีด้วยมาโปรดให้ความรู้เลย บางคนเกือบจะจะอ่านตำราไม่ออกด้วยใหม่แต่เค้าก็สามารถใช้ชีวิตได้ทำนองดีพร้อมด้วยมีคุณมากกว่าคนในยุคตรงนี้มากจริงๆ นี้จึงเป็นเรื่องน่าคาดคะเนที่คนในกาลสมัยนี้เป็นโรคภัยกรดไหลย้อน (http://dcsadvance.com) กรดไหลย้อน
ได้ และในมื้อเย็นปกติคนสยามในสมัยก่อนจะนิยมกินแห่งไม่มันและเลือกทาผักมากขึ้น เนื่องจากจะไปโปรดให้กระเพาะทำงานได้ดีขึ้นในขณะหลับใหล ทั้งยังเร็วกว่าคนในกาลสมัยนี้อีกด้วย เพราะคนในยุคนั้นทานอาหารเย็นตอนประมาณหกโมงเย็นและจะทานเสร็จตอนประมาณหนึ่งทุ่มตรง ไม่ใช่ว่าเพราะไม่มีไฟฟ้าพร้อมทั้งกลัวจะดูกับข้าวไม่มองเห็นแต่เค้ามีความเชื่อว่าการทานข้าวรวดเร็วทันใจจะทำให้ ดีต่อมากกว่าทั้งยังสบายมากกระทั่งนอนด้วย เพราะกว่าจะนอนก็ประมาณสามซึ่งเหินห่างจากมื้ออาหารสุดๆสุดท้ายสี่เดนนรกโมง ซึ่งเป็นยุคสมัยที่สเก๊ตช์ตัวได้แยกย่อยอาหารส่วนบนไปบางส่วนทำให้อาหารท้องมิคือโรค กรดไหลย้อน
มากคนในยุคนี้เลย เพราะคนในกาลสมัยนั้นใส่ใจกับอาหารการกินในทุกๆมีและเลือกแต่ขอสดสะอาดและมี เช่น ในตอนเช้าก็จะหาอะไรกินง่ายๆ และมักจะเป็นอาหารอ่อนๆอาทิเช่น โจ้ก เกาเหลา ข้าวต้มพร้อมด้วยพืชผักผลไม้ต่างๆ หลีดเลี่ยงอาหารแหล่งมีรสจัด แต่จะทานอาหารให้ครบแห่งเท่าที่จะทำได้นั้นจึงเป็นต้นเหตุเมื่อเทียบอัตราการเกิดโรค กรดไหลย้อน
กันข้อนข้างมากเพราะโรคภัยนี้เป็นโรคของคนรีบไม่ใส่ใจดูแลตัวเองให้ดี เนื่องจาก ในยุคนี้คนไม่นิยมทานข้าวเช้า ทั้งๆที่เป็นมื้อหลักเครื่องใช้ทิวาแต่จะรวบเอามื้อเช้าพร้อมทั้งมื้อปานกลางวันเอาไว้ด้วยซ้ำกันแต่จะกินกาแฟแทนอาหารการกินเช้า ซึ่งกาแฟเป็นสิ่งที่ส่งผลชั่วช้ากระเพาะที่ว่างเปล่าอาหารเป็นอย่างไม่เบา แล้วหลังตื่นสเก๊ตช์กายของเรานั้นท้องจะว่างมากเปล่าสามารถหรือดูดซึมซับคาเฟอีนจำนวนมากเอาไว้ได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสมัยนิยมทำให้เรากาแฟเป็นหลักกับขนมปังที่มีต้นตาลทำให้สเก๊ตช์กายไม่ได้รับสารของกินที่แค่พอมื้อเช้าที่จำเป็น แต่กลับไปทำร้ายด้วยกาแฟและแม่น้ำลำคลองตาลแทนอาหารการกินดี จึงทำกลายเป็นความเจ็บไข้ กรดไหลย้อน
ของคนในตรงนั้นพร้อมกับคนในยุคนี้นั้นจึ่งมีจำนวนต่างกันมากเนื่องจากคนในกาลสมัยก่อนทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักอาหาร และเหมาะสมในแต่ละมื้ออาหาร เช่นในช่วงเช้าจะทานอาหารอ่อนเน้นผล เพราะกระเพาะยังคงว่างไม่เบาอยู่อีกต่างหากมิย่อยของหนักๆ ย่อหน้าปานกลางวัน ก็จะหนักขึ้นเน้นเนื้อไม่ติดแน่นมันและ คืออาหารแห่งเกือบเต็มข้างอยู่อาจจะหมายถึงกะทิก็ได้เพราะหลายคนอาจจะเข้ามาใจผิดว่าแกงกะทิไม่ดีเพราะทำให้อ้วนและอาจจะทำมอบปรากฏความเจ็บไข้ กรดไหลย้อน
ขึ้นได้ แต่แหล่งแท้แล้วใช่เลยแกงกะทินั้นเป็นไขมันดีที่มีอยู่ในธรรมร่างกายเก่งนำไปใช้ได้มาล่วง แล้วจึงเป็นไขมันส์ดีที่เก่งบริโภคได้อย่างไรก็ตามกล้าจะควรจำกัดการทานไม่ช้า เพราะอย่างไรสะก็ขึ้นพระนามว่ามันส์กะทิ แล้วจึงอาจจะส่งผลดีกับร่างกายได้ เนื่องจากอะไรที่กินอื้อซ่าเกินไปก็เปล่าดี ควรบริโภคแต่พอดีจึงจะสม เพราะมื้อกลางวันตรงนั้นสำคัญแพ้มื้อเช้าเลยเพราะร่างกายจะนำพลังงานนี้ไปใช้ตลอดช่วงที่เราต้องนั่งทำงาน และนั่งเรียนจึงต้องหมายถึงงานแห่งเหมาะสมเพื่อให้ให้ร่างกายนำเอาไปใช้ได้ทันที และลดตำแหน่งความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรค กรดไหลย้อน
(http://mahosot.com/wp-content/uploads/2015/07/gastroesophageal-reflux-disease-1024x672.jpg)
นั้นอาจจะไม่ใช่เครียดขึ้น หรือความรู้น้อยลงเพราะเครียดนั้นคนทุกยุคและมีกระแสความยากลำบากไม่แพ้กัน แต่ความรู้นั้นเชื่อว่าร้ายในยุคนั้นย่อมจะหาได้สบายกว่า อย่างไรก็ตามคนในยุคนี้อาจจะนุ่งใจแก่สุขเล็กน้อยกว่าและใส่ใจในรายในการใช้ชีพบางตากว่า จึงทำสละมีสุขภ กรดไหลย้อน
[youtube]youtube.com/watch?v=q0sQS3JVvb0[/youtube]
ตามสมัยการกำหนดอีกตัวอย่างเช่นกัน อย่างไรก็ตามเทียบคนในยุคก่อนแล้ว ถึงแม้จะอยู่ในสมัยข้าวลำบากลำบนหมากแพงมีสงครามเข้ากับเมืองต่างๆมากมาย อย่างไรก็ตามคนยุคนั้นก็ไม่ชินได้ยินนินทามีใครที่จะโรค กรดไหลย้อน